หลังจากที่ญี่ปุ่นรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) เป็นนักการทูตวัย 30 ปีเศษ จากประเทศนามิเบีย ในทวีปแอฟริกา ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกประกาศห้ามชาวต่างชาติจากทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นชั่วคราว ยกเว้นบางกรณี เช่น คู่สมรสชาวต่างชาติและบุตรที่มีสัญชาติญี่ปุ่น นักการทูตและเหตุผลด้านมนุษยธรรม
ล่าสุด วันนี้ (1 ธ.ค.) นายฮิโรกาซุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมีความเข้มงวดมากขึ้นเรื่องการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง โดยห้ามชาวต่างชาติจาก 10 ประเทศในทวีปแอฟริกา ได้แก่ แองโกลา บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย แอฟริกาใต้ แซมเบียและซิมบับเว ที่มีที่พักอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นกลับเข้าประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติซึ่งมีประวัติการเดินทางไปยัง 10 ประเทศดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) ไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ เพื่อลดช่องว่างเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ญี่ปุ่นตัดสินใจระงับโครงการรับสมัครนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาศึกษาโดยได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล ตลอดถึงโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและครู ชั่วคราว จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง รวมทั้งกำหนดให้ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีที่พักอาศัยในญี่ปุ่นที่กลับมาจาก 27 ประเทศและอาณาเขต จะต้องกักตัว 10 วัน ในศูนย์กักกันของรัฐ ขณะที่ผู้ที่กลับจากไนจีเรีย โปรตุเกส สเปน และสวีเดน จะเข้ารับการกักตัว 3 วัน ในศูนย์กักกันของรัฐ