นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้มีมาตรการป้องกันในระดับแรกแล้ว ส่วนการตรวจจับค้นหาเชื้อโอไมครอนที่อาจจะเข้ามาในประเทศนั้น ต้องทำเต็มที่ รัดกุม และทันต่อสถานการณ์
ส่วนที่มีการปรับแผนอนุญาตให้ตรวจแบบ ATK แล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ แทนการตรวจ RT-PCR ในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในไทยนั้น ขณะนี้จะต้องมีการทบทวน โดยยังคงใช้วิธี RT-PCR เหมือนเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเข้มข้น เพื่อการตรวจจับค้นหาโอไมครอนที่จะมาจากต่างประเทศ ส่วนที่มีการเสนอในหลายๆ รูปแบบจะต้องมีการติดตามข้อมูลให้มีความชัดเจนมากที่สุด
นายสาธิต เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกศูนย์ของกรมฯ รวมทั้งภาคีเครือข่าย จะต้องมีวิธีตรวจจับหาโอไมครอนให้ได้ดีที่สุด แต่ขณะนี้โดยเทคนิคมีการประเมินว่า ถ้าเชื้อเป็นเดลตาบางส่วน และอัลฟาบางส่วน ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโอไมครอน และในสเตปต่อไปจะมีน้ำยาตรวจจับโอไมครอนโดยตรง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าคงไม่สามารถมีวัคซีนหรือยาชนิดใดที่ป้องกันไวรัสได้ทุกสายพันธุ์ มีแต่การติดตามข้อมูลให้เร็วที่สุด ส่วนบริษัทวัคซีนก็คงจะเริ่มคิดค้นมีข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อศึกษาวิจัยทำวัคซีนสู้กับการกลายพันธุ์ สิ่งสำคัญที่สุดประชาชนจะต้องรักษามาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล อันเป็นสิ่งที่ป้องกันไวรัสได้ทุกสายพันธุ์
อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งตื่นตระหนกมากเกินไป ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลจากทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ และเครือข่าย 300 กว่าแล็บ ว่าโอไมครอนหลุดลอดมาในประเทศไทย แต่โดยธรรมชาติจะเริ่มป้องกันได้ยากสำหรับการแพร่ระบาดของทุกไวรัส แม้จะป้องกันได้ทั้งทางอากาศ แต่เป็นห่วงช่องทางธรรมชาติซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ดังนั้น การตรวจจับให้เร็วที่สุดจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด