นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนบางกลุ่มยังมีความเข้าใจผิด หรือมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า การดื่มเหล้าจะสามารถช่วยคลายหนาวได้ ซึ่งในทางการแพทย์นั้นจัดว่าเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้มีความรู้สึกร้อนวูบวาบหรือร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ความจริงแล้วการขยายตัวของหลอดเลือดฝอยเป็นช่องทางให้ความร้อนถูกระบายออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มเหล้ามากขึ้น ความร้อนจะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้นด้วย ส่งผลให้อุณหภูมิภายในร่างกายจะลดลงต่ำกว่าปกติ และเมื่อร่างกายสัมผัสอากาสเย็นเป็นเวลานานขณะนอนหลับ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้
นอกจากนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ประชาชนมักใช้เพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายคือ การผิงไฟ ซึ่งในการก่อไฟแต่ละครั้งนั้นจะปล่อยควันไฟออกมา และเมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นจึงควรก่อไฟในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ขณะผิงไฟควรนั่งหรือยืนอยู่เหนือทิศทางลม และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้บริเวณที่มีการก่อไฟ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการนำเตาถ่านหรือตะเกียงน้ำมันก๊าดเข้าไปจุดผิงไฟในเต็นท์ เนื่องจากจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ ไม่มีกลิ่น เมื่อสูดดมก๊าซ 2 ชนิดนี้เข้าไป จะทำให้เซลล์ของอวัยวะต่างๆ ขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ทำให้เกิดอาการง่วง หลับโดยไม่รู้ตัว และเสียชีวิตได้