เรือโท ยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และรักษาการผู้อำนวยการ กทท. เปิดเผยผลการดำเนินงานของ กทท. ในการให้บริการเรือสินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ประจำปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สรุปได้ดังนี้
ท่าเรือกรุงเทพ เรือเทียบท่า 4,170 เที่ยว เพิ่มขึ้น 9.1% สินค้าผ่านท่า 21.185 ล้านตัน ลดลง 1.2% ตู้สินค้าผ่านท่า 1.438 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 0.2%
ท่าเรือแหลมฉบัง เรือเทียบท่า 9,670 เที่ยว ลดลง 1.0% สินค้าผ่านท่า 90.445 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 9.0% ตู้สินค้าผ่านท่า 8.419 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 10.2%
ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เรือเทียบท่า 2,231 เที่ยว ลดลง 10.5% สินค้าผ่านท่า 103,972 ตัน ลดลง 32.6% ตู้สินค้าผ่านท่า 5,064 ที.อี.ยู. ลดลง 32.3%
ท่าเรือเชียงของ เรือเทียบท่า 5 เที่ยว ลดลง 96.6% สินค้าผ่านท่า 28 ตัน ลดลง 98.9%
ท่าเรือระนอง เรือเทียบท่า 248 เที่ยว เพิ่มขึ้น 15.9% สินค้าผ่านท่า 128,686 ตัน เพิ่มขึ้น 55.5% ตู้สินค้าผ่านท่า 4,173 ตู้ เพิ่มขึ้น 53%
เรือโท ยุทธนา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานของ กทท. ในรอบ 12 เดือน (ต.ค.63-ก.ย.64) มีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง รวม 13,840 เที่ยว เพิ่มขึ้น 1.9% สินค้าผ่านท่า 111.630 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.9% และตู้สินค้าผ่านท่า 9.857 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 8.6% รวมรายได้ 15,613 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 6,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% อัตราการเติบโตของตู้สินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากการส่งออกของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ทั้งปัจจัยด้านการส่งออกที่เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ประกอบกับภาคการผลิตของไทยที่สามารถกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น รวมทั้งผลจากอุปสงค์ ทั้งในและต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น ทำให้ภาคการบริการฟื้นตัวจึงส่งผลให้แนวโน้มภาพรวมของ กทท. มีผลการดำเนินงานการให้บริการสินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าสูงขึ้น