พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปอศ.) และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จับกุมผู้ลักลอบผลิตเครื่องมือทางการเเพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พบกล่องบรรจุถุงมือยางทางการแพทย์จำนวนกว่า 10,000 กล่อง และพบถุงมือยางที่รอบรรจุ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่าโกดังหลังดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับเจ้าของ คือนายโอซาวา (กรรมการบริษัทฯ) ซึ่งเป็นเจ้าของโกดังดังกล่าว โดยสามารถตามจับกุมตัวนายโอซาวา ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ และในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม น.ส.ศุภนิดา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายโอซาวา ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเพลินจิต เช่นกัน
ทั้งนี้ น.ส.ศุภนิดา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับฐานฉ้อโกง มักมีพฤติการณ์หลอกขายถุงมือยางที่ไม่ได้คุณภาพ หรือจัดส่งถุงมือยางที่ไม่ครบตามจำนวนให้กับผู้เสียหาย โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินซื้อถุงมือยาง มูลค่าความเสียหายเกือบ 4 ล้านบาท
ต่อมา วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 6 ตู้ ณ ลานฝากตู้คอนเทนเนอร์ ย่าน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบถุงมือยางปลอมรวมจำนวนกว่า 10 ล้านชิ้น ตรวจสอบพบว่าเป็นของนายโอซาวา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดอายัดของกลางดังกล่าว และนำตัวนายโอซาวา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ดำเนินคดี
หลังจากการจับกุมนายโอซาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายเเล้ว ต่อมาทาง บก.ปอศ. ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายโอซาวา มีพฤติการณ์หลอกขายถุงมือยางทางการแพทย์ให้กับชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนหลายราย มีผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 180 ล้านบาท และผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 88 ล้านบาท โดยผู้เสียหายทั้งสองบริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้ฐาน ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้จดทะเบียนสถานประกอบการ ร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์ปลอม
ต่อมา นายโอซาวา ได้รับการประกันตัวจากการถูกจับกุมในคดีก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมนายโอซาวา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ บก.ปอศ. อีก 2 หมายจับ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณซอยจอมเทียน 5 จ.ชลบุรี
จากการสืบสวนขยายผล พบว่านายโอซาวา มีบัญชีเงินฝากที่มีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้กับคนใกล้ชิด และครอบครองรถยนต์หรูไว้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พฤติการณ์ในการหลอกลวงขายถุงมือยางของนายโอซาวา มักจะกระทำผิดในรูปแบบเดียวกันหลายครั้ง ฉวยโอกาสในช่วงขาดแคลนถุงมือยางในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไว้หลายคดี มีบางคดีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติยื่นฟ้องต่อศาลเอง นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายโอซาวา รวมมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณ 286 ล้านบาท
การกระทำของนายโอซาวา นอกจากจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว ยังน่าเชื่อว่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18) ซึ่งทาง บก.ปอศ. ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบทรัพย์สินและธุรกรรมทางการเงินของนายโอซาวา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป