พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
สำหรับการชุมนุม วานนี้ (12 พ.ย.64) กลุ่มราษฎรเอ้ย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวาย ด้านกลุ่มทะลุแก๊ส ไม่พบการรวมกลุ่มของมวลชนในพื้นที่แต่อย่างใด
ขณะที่การชุมนุมในวันนี้ มีการนัดชุมนุม 3 กลุ่ม คือ ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม เวลา 17.00 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ศาลฎีกา เวลา 17.30 น. และกลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง เวลา 17.30 น.
ส่วนการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กับกลุ่มทะลุฟ้า ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 15.00 น. และจะเคลื่อนขบวนไปท้องสนามหลวง ซึ่งตำรวจได้เตรียมกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การชุมนุมทั้งในวันนี้และพรุ่งนี้ ตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณใกล้เคียงพื้นที่การชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดหากมีเหตุใช้ความรุนแรงและก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมซึ่งหน้าได้ก็จะดำเนินการทันที ในกรณีที่จับกุมซึ่งหน้าไม่ได้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีไปแล้ว 783 คดี สั่งฟ้องแล้ว 385 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนอีก 398 คดี
ส่วนกรณีรถยนต์ MG สีแดง ขับชนดะ 7 คันรวด บริเวณหน้าโรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เจ้าตัวให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอ้างว่ามีโรคประจำตัว เป็นลมชักเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งในวันเกิดเหตุอาการกำเริบ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ขณะเจ้าหน้าที่ให้เจ้าตัวนำหลักฐานเอกสารชี้แจงโรคประจำตัวมายืนยันกับพนักงานสอบสวน เบื้องตนพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บ ข้อหาเฉี่ยวชนและหลบหนีไม่อยู่ให้การช่วย พร้อมเตรียมสำนวนส่งฟ้องศาล ภายในวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายนนี้
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างเฟกนิวส์ในสื่อโซเชียลเพื่อยั่วยุปลุกปั่น สร้างความเข้าใจผิด ก็มีความผิดเช่นกัน ที่ผ่านมาการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทั่วประเทศมีถึงกว่า 1,200 คดี ซึ่งยืนยันว่าการชุมนุมยังเป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องดำเนินคดี