xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.รายงานยังมีสถานการณ์น้ำท่วม 15 จังหวัด เร่งประสานหน่วยงานช่วยเหลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัย และน้ำป่าไหลหลาก รวม 15 จังหวัด จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ และมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2564 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ เพชรบุรี ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา มีผู้เสียชีวิต 2 คนในจังหวัดชุมพร สถานการณ์ในภาพรวม บางพื้นที่ระดับน้ำลดลง ดังนี้

ภาคกลาง

- จ.เพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านลาด อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอแก่งกระจาน และอำเภอหนองหญ้าปล่อง รวม 13 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 110 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ภาคใต้

- จ.ระนอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระบุรี ละอุ่น รวม 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 100 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

- จ.ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี และอำเภอพะโต๊ะ รวม 25 ตำบล 153 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,683 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

- จ.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง และอำเภอดอนสัก รวม 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 182 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 182 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

- จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอสิชล อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอนบพิตำ รวม 10 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 160 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

- จ.สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียงอำเภอสะเดา และอำเภอคลองหอยโข่ง รวม 12 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ในขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึง 13 พฤศจิกายน 2564 ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ 9 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ คือ หนองบัวลำภู มหาสารคาม อุบลราชธานี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม มีผู้เสียชีวิต 35 คน คือ นครราชสีมา 12 คน ลพบุรี 11 คน เพชรบูรณ์ 2 คน ชัยนาท 2 คน นครสวรรค์ 3 คน สิงห์บุรี 3 คน สุพรรณบุรี 2 คน ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

- จ.หนองบัวลำภู ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโนนสัง รวม 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 188 ครัวเรือน

- จ.มหาสารคาม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม รวม 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,627 ครัวเรือน

- จ.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 577 ครัวเรือน

ภาคกลาง

- จ.ลพบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอเมืองลพบุรี รวม 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 800 ครัวเรือน

- จ.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 20 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,011 ครัวเรือน

- จ.อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 29 ตำบล 142 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,467 ครัวเรือน

- จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 106 ตำบล 380 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,385 ครัวเรือน

- จ.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน

- จ.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง