ศาลฎีกานัดพิจารณาครั้งแรก ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้อง น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกัน กรณีการลงมติในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10
วันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายเดินทางมาศาล ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำ อม.19/2564 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพฤติการณ์ของคดีมีข้อเท็จจริงเดียวกันกับคดีที่ ป.ป.ช. ร้องต่อศาลฎีกา ซึ่ง น.ส.ธนิกานต์ แถลงว่า หากจะนำคำเบิกความของสำนวนคดีในศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาเป็นถ้อยคำพยานในคดีนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเบิกความซ้ำซ้อนกัน ก็ไม่คัดค้าน แต่ขอให้มีการไต่สวนพยานปากเดิมเพิ่มเติมในประเด็นอื่น หรือพยานใหม่ และขอให้จำหน่ายคดีนี้ชั่วคราว เพื่อรอการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช. ก็ไม่คัดค้านที่จะนำคำเบิกความมาเป็นถ้อยคำในคดีนี้เช่นกัน แต่ประสงค์ให้ไต่สวนต่อ โดยไม่รอผลการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อพยานสองคดีเป็นชุดเดียวกัน และนำสืบในข้อเท็จจริงเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ให้นำบันทึกถ้อยคำของคดี อม. 19/2564 มารวมเป็นถ้อยคำของคู่ความทั้งสองฝ่ายในคดีนี้ และอนุญาตให้ไต่สวนพยานปากเดิมในข้อเท็จจริงที่ไม่ซ้ำกัน โดยไม่จำเป็นต้องจำหน่ายคดีนี้ไว้ชั่วคราว โดยศาลนัดพร้อมในวันที่ 26 เมษายน 2565 เวลา 09.30 น.