นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพที่มักพบบ่อยในช่วงหน้าหนาว ได้แก่ ผิวหนังแห้ง คัน ริมฝีปากแตก ลอกเป็นขุย เป็นไข้หวัด น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ และคอแห้ง ประชาชนจึงควรเอาใจใส่ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ได้แก่ สวมใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างหนา ห่มผ้าในช่วงเวลากลางคืนหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็น เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ๆ โดยเลือกปรุงประกอบอาหารจากผักพื้นบ้านตามฤดูกาลและหาได้ง่ายในช่วงหน้าหนาว เช่น กระเจี๊ยบ ดอกขี้เหล็ก ยอดมะขาม ซึ่งอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เน้นเมนูอาหารที่มีเครื่องเทศ รสเผ็ดร้อน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เช่น แกงเลียง แกงป่า แกงส้ม แกงเผ็ด เป็นต้น หรืออาหารที่ปรุงด้วยสมุนไพร เช่นกระเทียม กระชาย ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กินผลไม้สดที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ มะขามป้อม มะขามเทศ เกรปฟรุต สตรอเบอร์รี ลูกพลับ จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และป้องกันโรคหวัด
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนควรดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำเพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นกับร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และต้องมั่นใจในเรื่องความสะอาดปลอดภัยของน้ำดื่มด้วย
นอกจากนี้ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย เป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ผู้สูงอายุทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง ให้ดีตลอดเวลา ส่วนเด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ให้กินนมแม่เป็นประจำเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน