พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อ 08.00 น. วันนี้ (10 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ ( ADMM Retreat ) ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี รัฐมนตรีกลาโหมบรูไน เป็นเจ้าภาพ โดยที่ประชุมแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 15 ปี ของความร่วมมือรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) ต่อจากนั้นได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงต่อทิศทางของ ADMM ร่วมกัน ในการรับมือกับแนวโน้มความท้าทายในอนาคต ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะการแข่งขันของประเทศมหาอำนาจ การรวมกลุ่มความร่วมมือใหม่ในภูมิภาค อินโด - แปซิฟิก ที่กระทบต่อสมดุลอาเซียน ตลอดจนความท้าทายด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องกำหนดความร่วมมือและแนวทางให้ชัดเจนในการดำรงความเป็นหนึ่งเดียวกัน แสวงโอกาสและกระชับความร่วมมือกันมากขึ้น โดยยึดมั่นความเป็นแกนกลางอาเซียน ตลอดจนใช้ทรัพยากรทางทหารร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พล.อ.ประวิตร ใช้โอกาสนี้ กล่าวถึงความตระหนักต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ส่งผลกระทบในทุกมิติ จำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์การใช้ชีวิต เพื่อสร้างความสมดุล ฟื้นฟูและพัฒนาอาเซียนให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ภายใต้บริบทของความปกติถัดไป ( Next Normal ) โดยย้ำว่า สนับสนุนให้อาเซียนแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันและสร้างบทบาทนำที่สร้างสรรค์ในกลไกของภูมิภาคให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พร้อมให้ข้อเสนอแนะต่อร่างกรอบยุทธศาสตร์ ADMM สำหรับเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ในการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสาขาและเสาความร่วมมืออาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
พล.อ.ประวิตร ใช้โอกาสนี้ กล่าวถึงความตระหนักต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ส่งผลกระทบในทุกมิติ จำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์การใช้ชีวิต เพื่อสร้างความสมดุล ฟื้นฟูและพัฒนาอาเซียนให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ภายใต้บริบทของความปกติถัดไป ( Next Normal ) โดยย้ำว่า สนับสนุนให้อาเซียนแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันและสร้างบทบาทนำที่สร้างสรรค์ในกลไกของภูมิภาคให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พร้อมให้ข้อเสนอแนะต่อร่างกรอบยุทธศาสตร์ ADMM สำหรับเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ในการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสาขาและเสาความร่วมมืออาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ