นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนกระจายตามอำเภอต่างๆ
ทั้งนี้ พบคลัสเตอร์งานศพในพื้นที่ชุมชนบ้านบัวขาว ม.12 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยจากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนพบว่า ช่วงกลางเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ในชุมชนดังกล่าว มีการจัดงานศพตามประเพณี โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมงาน กระทั่งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 มีชาวบ้านในพื้นที่เป็นไข้ไม่สบายเข้าไปรักษาและรับการตรวจที่โรงพยาบาลพบว่า ติดเชื้อโควิด-19
จากการสอบสวนโรคพบว่า ได้ไปร่วมงานศพดังกล่าว และในระหว่างการจัดงานศพ มีญาติผู้เสียชีวิตซึ่งมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น จ.ระยอง และกรุงเทพฯ มาร่วมงานก่อนจะกลับไปตรวจพบเชื้อ จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการสอบสวนโรคและตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงใน 8 ชุมชนกว่า 300 คน ที่มาร่วมงานเบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อแล้ว 24 ราย
สำหรับกลุ่มเสี่ยงกว่า 300 คนนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เข้าไปร่วมงานศพ และเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้ที่ไปร่วมงาน ซึ่งขณะนี้ผ่านการสอบสวนโรคและเข้ารับการตรวจหาเชื้อรอบแรก และเข้าสู่ระบบกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังอาการทั้งหมดแล้ว คาดว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มแต่คงไม่มากนัก ส่วนสาเหตุนั้น จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการร่วมงานศพแล้วมีการรับประทานอาหารร่วมกันกับผู้ติดเชื้อจนมีการแพร่ระบาดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนงานประเพณีต่างๆ ที่มีคนจำนวนมากนั้นได้ แนะนำให้เจ้าภาพห่ออาหารให้กับผู้มาร่วมงานกลับไปรับประทานที่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากมีผู้ติดเชื้อมาร่วมงาน
ทั้งนี้ พบคลัสเตอร์งานศพในพื้นที่ชุมชนบ้านบัวขาว ม.12 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยจากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนพบว่า ช่วงกลางเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ในชุมชนดังกล่าว มีการจัดงานศพตามประเพณี โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมงาน กระทั่งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 มีชาวบ้านในพื้นที่เป็นไข้ไม่สบายเข้าไปรักษาและรับการตรวจที่โรงพยาบาลพบว่า ติดเชื้อโควิด-19
จากการสอบสวนโรคพบว่า ได้ไปร่วมงานศพดังกล่าว และในระหว่างการจัดงานศพ มีญาติผู้เสียชีวิตซึ่งมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น จ.ระยอง และกรุงเทพฯ มาร่วมงานก่อนจะกลับไปตรวจพบเชื้อ จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการสอบสวนโรคและตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงใน 8 ชุมชนกว่า 300 คน ที่มาร่วมงานเบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อแล้ว 24 ราย
สำหรับกลุ่มเสี่ยงกว่า 300 คนนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เข้าไปร่วมงานศพ และเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้ที่ไปร่วมงาน ซึ่งขณะนี้ผ่านการสอบสวนโรคและเข้ารับการตรวจหาเชื้อรอบแรก และเข้าสู่ระบบกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังอาการทั้งหมดแล้ว คาดว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มแต่คงไม่มากนัก ส่วนสาเหตุนั้น จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการร่วมงานศพแล้วมีการรับประทานอาหารร่วมกันกับผู้ติดเชื้อจนมีการแพร่ระบาดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนงานประเพณีต่างๆ ที่มีคนจำนวนมากนั้นได้ แนะนำให้เจ้าภาพห่ออาหารให้กับผู้มาร่วมงานกลับไปรับประทานที่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากมีผู้ติดเชื้อมาร่วมงาน