นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 515 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 461 ราย และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 54 ราย) รักษาหายเพิ่ม 75 ราย เสียชีวิต 1 ราย (จากเรือนจำกลางนครสวรรค์) ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 2,939 ราย (กลุ่มสีเขียว 82.3% สีเหลือง 17.2% และสีแดง 0.5%) โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 69,865 ราย หรือ 93.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 74,928 ราย เสียชีวิตสะสม 169 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
ขณะที่วันนี้พบการระบาดใหม่ที่เรือนจำจังหวัดชุมพร ส่งผลให้จำนวนเรือนจำสีขาวลดลงอยู่ที่ 126 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 16 แห่ง โดยเป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 9 แห่ง (ระบาดใหม่ 5 แห่ง และระบาดซ้ำ 4 แห่ง) ขณะที่มีเรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT แล้วจำนวน 7 แห่ง ซึ่งจะเริ่มทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องภายในกลางเดือนนี้
ด้านการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้วทั้งสิ้น 380,665 โดส เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 8,105 โดส แบ่งเป็นการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังเข็มที่ 1 จำนวน 237,884 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 142,781 ราย ซึ่งถือได้ว่าผู้ต้องขังกว่า 50% หรือครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว