วันนี้ (1 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต.ศูนย์ราชการ อาคาร B นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ใช้อำนาจตาม 2560 ม.170 วรรคสาม เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้อาศัยอำนาจตาม ม.79 แห่ง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด 2540 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) 2562 ประกอบ ม.98 แห่ง พ.ร.ป. ป.ป.ช.2561 สั่งให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 แล้วนั้น ถือได้ว่าบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี หรือความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตาม ม.160 ประกอบมาตรา 98(8) ของรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วหรือไม่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนและ ป.ป.ช.ได้ออกมาแถลงชี้มูลความผิดว่านายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ให้เอกชนที่ประมูลได้และได้ส่งมอบรถให้ อบจ.สงขลาแล้ว เป็นการประวิงเวลาทำให้เอกชนและรัฐเสียหาย จนเอกชนต้องนำความไปฟ้องต่อศาลปกครอง และต่อมาศาลปกครองสงขลามีคำพิพากษาให้ อบจ.สงขลา ชำระค่ารถพร้อมดอกเบี้ยรวม 52,062,041 บาท เพราะผิดสัญญา
ต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณา ไต่สวนเรื่องร้องเรียนกล่าวหาแล้วมีมติเห็นว่า การกระทําของนายนิพนธ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และมีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติการ ตามอํานาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามพรบ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด 2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ม.79
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จึงได้ออกคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1528/2564 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 เรื่อง ให้นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พ้นจากตําแหน่ง ในวาระการดํารงตําแหน่งตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2562
ด้วยเหตุดังกล่าว นายนิพนธ์ ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงอาจเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.98(8) คือเคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติมิชอบในวงราชการ จึงอาจมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตาม ม.160(6) ซึ่งจะทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงได้ตาม ม.170(4) นั่นเอง