ทางการนิวซีแลนด์ประกาศในวันนี้ (28 ต.ค.) ผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางผ่านแดนที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อควบคุมโควิด-19 และจะใช้ระบบแยกกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
นิวซีแลนด์อยู่ในกลุ่มประเทศลำดับแรกที่ปิดพรมแดนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่แล้ว และยังคงข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศจนถึงขณะนี้ โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น ส่งผลให้พลเมืองและผู้พำนักอาศัยจำนวนมากต้องติดค้างอยู่ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในประกาศระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว จะต้องกักตัวในสถานที่ซึ่งรับจัดให้เป็นเวลา 7 วัน หรือครึ่งหนึ่งของข้อกำหนดในปัจจุบัน ส่วนการแยกกักตัวที่บ้านจะเริ่มบังคับใช้ในไตรมาสแรกของปี 2565 และการเดินทางแบบปลอดการกักกันจะอนุญาตเฉพาะประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น ซามัว ตองกา และวานูอาตู ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์จะออกจากมาตรการล็อกดาวน์ก็ต่อเมื่อร้อยละ 90 ของประชากรที่มีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว โดยในขณะนี้ประมาณร้อยละ 72 ของผู้มีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว และเกือบร้อยละ 87 ได้รับการฉีดวัคซีนครั้งแรก