นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำคณะพระสังฆาธิการ นำโดยพระพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา และผู้นำเครือข่ายพุทธศาสนิกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นายอนุชา กล่าวว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักประจำชาติ และเป็นเสาหลักสำคัญของชาติไทยและคนไทยทั้งประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยควรทำนุบำรุงศาสนา จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ส่งผลกระทบระยะยาวและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ โดยได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งติดตามและดำเนินการให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ทั้งเรื่องของการบูรณะวัด และการประสานงานอำนวยความสะดวกคณะสงฆ์ พร้อมกำชับเรื่องการทำบุญที่วัดต่างๆ เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการใส่บาตร การสวดมนต์ รวมถึงโรงทานต่างๆ จะต้องมีการแยก หรือมีการกำหนดจำนวนคน และต้องมีการกำหนดวิธีการในการทำบุญต่างๆ ให้เหมาะสม
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดในอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกคน ทุกส่วนราชการ ทุกหน่วยงาน ทั้งภาคประชาชน และประชาสังคม ธุรกิจเอกชนต่างๆ ช่วยกันหามาตรการป้องกันของตัวเอง ตามมาตรการ Thailand Prevention ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้
สำหรับการหารือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเปิดโลกทัศน์แกนนำเครือข่ายชาวไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ พื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 23-29 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งคณะจะได้เข้าพบและหารือบุคคลสำคัญ อาทิ การเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เพื่อหารือแนวทางการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังจากการเกิดเหตุการความไม่สงบในพื้นที่มาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลต่อความยากลำบากในการดำรงชีวิตของพระภิกษุสงฆ์และประชาชนในพื้นที่