สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพอาคารรัฐสภา หรือพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตยของอังกฤษ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 นั้น พบว่า มีปัญหามากกว่า 40,000 จุด ตั้งแต่หินแตกร้าว ระบบประปาเสียหาย ไปจนถึงระบบกลไกและระบบไฟฟ้าที่เก่าเกินไป
ด้าน นางนาตาลี อีแวน ประธานสภาขุนนาง กล่าวว่า แม้แผนซ่อมบำรุงรักษาอาจจะได้ผล แต่อาคารก็พังทลายเร็วกว่าที่จะซ่อมแซมทั้งหมดได้ทัน จึงต้องรีบซ่อมโครงสร้างที่จำเป็นเพื่อพยุงตัวอาคารก่อนอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ วิศวกรผู้ตรวจสอบอาคารด้านสถาปัตยกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ร่วมใช้เวลาตรวจสอบความเสียหายของอาคารรัฐสภา ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่มีอายุกว่า 150 ปี รวมแล้วกว่า 4,700 ชั่วโมง ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ นับเป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะบูรณะอาคารที่เป็นมรดกโลก ซึ่งถูกเลื่อนการบูรณะมาตลอด และยังไม่มีกำหนดจะเสนอแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณจากรัฐสภา เพื่อการซ่อมบำรุงจนกว่าจะถึงปี 2023 หลังจากที่เมื่อหลายปีก่อนมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงทั้งหมดอยู่ที่ 4,300 ล้านปอนด์หรือราว 190,000 ล้านบาท ส่งผลให้สมาชิกสภาลังเลที่จะอนุมัติงบประมาณดังกล่าว
ด้าน นางนาตาลี อีแวน ประธานสภาขุนนาง กล่าวว่า แม้แผนซ่อมบำรุงรักษาอาจจะได้ผล แต่อาคารก็พังทลายเร็วกว่าที่จะซ่อมแซมทั้งหมดได้ทัน จึงต้องรีบซ่อมโครงสร้างที่จำเป็นเพื่อพยุงตัวอาคารก่อนอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ วิศวกรผู้ตรวจสอบอาคารด้านสถาปัตยกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ร่วมใช้เวลาตรวจสอบความเสียหายของอาคารรัฐสภา ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่มีอายุกว่า 150 ปี รวมแล้วกว่า 4,700 ชั่วโมง ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ นับเป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะบูรณะอาคารที่เป็นมรดกโลก ซึ่งถูกเลื่อนการบูรณะมาตลอด และยังไม่มีกำหนดจะเสนอแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณจากรัฐสภา เพื่อการซ่อมบำรุงจนกว่าจะถึงปี 2023 หลังจากที่เมื่อหลายปีก่อนมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงทั้งหมดอยู่ที่ 4,300 ล้านปอนด์หรือราว 190,000 ล้านบาท ส่งผลให้สมาชิกสภาลังเลที่จะอนุมัติงบประมาณดังกล่าว