สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานผลการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 11-15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวมจำนวน 136,250 คน แบ่งออกเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบต. จำนวน 12,309 คน ผู้สมัครสมาชิกอบต.จำนวน 123,941คน
จังหวัดที่มีผู้สมัครสมาชิกและนายก อบต. สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 7,333 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกฯ จำนวน 554 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 6,779 คน จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 5,621 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกจำนวน 479 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 5,142 คน จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 5,062 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 371 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 4,691 คน จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4,823 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 415 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 4,408 คน จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 4,445 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 349 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 4,096 คน
จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3,761 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 361 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา จำนวน 3,400 คน จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 3,686 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 294 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 3,392 คน จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 3,609 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 325 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 3,284 คน จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 3,322 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 262 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 3,060 คน และจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 3,176 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 280 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 2,896 คน
ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกและนายก อบต. น้อยที่สุด คือ จังหวัดภูเก็ต จำนวน 121 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก จำนวน 17 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก จำนวน 104 คน
ทั้งนี้ มาตรา 52 วรรคสาม และวรรคสี่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 บัญญัติให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบความถูกต้องของการสมัครของผู้สมัคร และตรวจสอบว่าผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องและผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้ประกาศรายชื่อผู้สมัครภายใน 7 วัน นับแต่วันปิดรับสมัครไว้โดยเปิดเผย ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่อื่นที่เห็นสมควร ประกาศรายชื่อผู้สมัครตามวรรคสาม ให้มีชื่อตัว ชื่อสกุล รูปถ่าย และหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครที่จะใช้ในการลงคะแนนเลือกตั้ง ตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ทั้งนี้ ให้ปิดประกาศคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 49 และมาตรา 50 ไว้ที่ปิดประกาศดังกล่าวด้วย