จากกรณีที่มีการโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติที่ระบุว่า ประเทศไทย เตรียมรับมือกับพายุคมปาซุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 70 ปีนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ทำการตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2564 พายุโซนร้อน “คมปาซุ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณ ประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงบ่ายวันที่ 14 ตุลาคม 2564 และจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน หย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันดังกล่าว
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝน ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมี คลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2564
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าได้แชร์หรือส่งต่อข่าวลือนี้และติดตามข่าว พยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยา เท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกขึ้นในสังคม และหากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติม สามารถสอบถามได้ที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th, Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thai weather สายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง)