นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ เห็นชอบปรับจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 29 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี
ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จาก 37 จังหวัด เป็น 30 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครสวรรค์ นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์
ขณะที่พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และอำนาจเจริญ
นอกจากนี้ ศบค. เห็นชอบการปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการและกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หลายประเด็น อาทิ การห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) จากเดิมเวลา 22.00-04.00 น. ปรับเป็น 23.00-03.00 น. เริ่มวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ขณะที่ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด เดิมเปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 21.00 น. (จำหน่ายเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค) ปรับเป็นเปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 22.00 น. จำหน่ายได้ทุกประเภทสินค้า
ส่วนกิจการอื่นๆ ที่เปิดทำการโดยกำหนดเวลา เช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหาร โรงละคร โรงมหรสพ (ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ) สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เดิมเปิดได้ถึงเวลา 21.00 น. ปรับเป็นเปิดดำเนินการตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.
สถานดูแลผู้สูงอายุ เดิมให้รับเฉพาะที่อยู่ประจำ ไม่เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ ปรับเป็นให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้
ขณะที่การขนส่งสาธารณะทุกประเภท เดิมความจุ 75% ของยานพาหนะ ปรับเป็นเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะ โดยให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแล
นอกจากนี้ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ในลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม เปิดบริการจัดประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้แต่จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 500 คน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมง
สำหรับสถานบันเทิง ผับบาร์ และคาราโอเกะ ยังไม่เปิดบริการ แต่ให้ผู้ประกอบการเตรียมการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และระบบระบายอากาศตามมาตรฐาน รวมถึงให้บุคลากรได้รับวัคซีนครบทุกคน และปรับมาตรการใหม่ให้เสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2564