นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 133 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 34 ราย และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 99 ราย) รักษาหายเพิ่ม 97 ราย เสียชีวิต 1 ราย (จากเรือนจำกลางพัทลุง) ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 2,011 ราย (กลุ่มสีเขียว 65.1% สีเหลือง 32.9% และสีแดง 2%)
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้มีเรือนจำที่พ้นจากการระบาดเพิ่ม คือ เรือนจำจังหวัดตราด ขณะเดียวกัน พบเรือนจำระบาดเพิ่ม 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงราย (ระบาดใหม่) และเรือนจำกลางบางขวาง (ระบาดซ้ำ) ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดงจำนวน 19 แห่ง และเรือนจำสีขาว 123 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 67,579 ราย หรือกว่า 94.3% ของผู้ติดเชื้อสะสม 71,642 ราย เสียชีวิตสะสม 159 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม
นายอายุตม์ เปิดเผยด้วยว่า สถานะเรือนจำแพร่ระบาดในวันนี้ มีเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาดทั้งสิ้น 10 แห่ง (ระบาดใหม่ 5 แห่ง และระบาดซ้ำ 5 แห่ง) ขณะที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี จะพ้นจากการระบาดในวันพรุ่งนี้ (15 ตุลาคม) ส่วนเรือนจำที่เหลืออีก 8 แห่ง จะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องทั้งหมดในเดือนนี้
สำหรับการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 275,210 โดส เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 3,690 โดส แบ่งเป็น การฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังเข็มที่ 1 จำนวน 210,389 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 64,821 ราย ดังนั้น ถือว่าผู้ต้องขังกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนเข็มแรกครบทุกรายเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากผู้ต้องขังในส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มที่อยู่ในเรือนจำแพร่ระบาด รวมถึงผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว ซึ่งจะยังไม่สามารถรับวัคซีนเข็มแรกได้ในขณะนี้ ต้องรอการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคอีกครั้งตามระยะเวลา โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป