xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง-พระราชินี พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่สระบุรี-พิจิตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎร ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและจังหวัดพิจิตร ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

วันนี้ (8 ต.ค.64) เวลา 09.18 น. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ณ ห้องประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี

ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องน้อมนำไปปรับใช้ในการกำหนดแผนและเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชน กับให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ อาทิ การส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การแจ้งเตือนการซักซ้อมทำความเข้าใจแผนการฟื้นฟูหลังประสบภัย การถอดบทเรียนนำข้อบกพร่องมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดซ้ำอีก และให้เร่งสำรวจความเสียหายด้านต่างๆ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขโดยเร็ว

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,500 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี จังหวัดสระบุรี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบและได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ชุมชนดาวเสด็จ ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี จำนวน 11 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้

จังหวัดสระบุรี แบ่งการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 111 ตำบล 973 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ที่อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง ทำให้เกิดน้ำฝนสะสมไหลลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเข้าคลองชัยนาท ป่าสัก ทำให้ผนังกั้นน้ำคลอง 23 R บริเวณตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอบ้านหมอ และอีกส่วนได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกท้ายเขื่อนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงแม่น้ำป่าสักไหลผ่านพื้นที่อำเภอต่างๆ และการระบายน้ำของเขื่อนพระราม 6 ลงคลองระพีพัฒน์ ซึ่งบางพื้นที่เป็นเส้นทางน้ำหลากและลุ่มต่ำ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน ได้รับความเสียหายใน 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเสาไห้ อำเภอบ้านหมอ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอวิหารแดง อำเภอดอนพุด อำเภอหนองโดน อำเภอหนองแซง อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย และอำเภอมวกเหล็ก รวม 46 ตำบล 240 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 7,229 ครัวเรือน พื้นทางการเกษตรและบ่อเลี้ยงสัตวน้ำ เสียหาย 26,646 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วม และเฝ้าระวัง
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้กำชับให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กร มูลนิธิ และจิตอาสาพระราชทาน เร่งระดมให้ความช่วยเหลือเป็นการเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน และเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร สำหรับเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตในการประกอบอาชีพได้ตามปกติต่อไป

ในวันเดียวกันนี้ เวลา 08.50 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ ราษฎรที่ประสบอุทกภัย และติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยมีนายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสามง่าม

ทั้งนี้ องคมนตรี ได้ให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ อาทิ การส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานการแจ้งเตือน การซักซ้อมทำความเข้าใจแผน การฟื้นฟูหลังประสบภัย การถอดบทเรียนนำข้อบกพร่องมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดซ้ำอีก เป็นต้น

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,650 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ ได้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่บ้านเกาะสาริกา ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร จำนวน7 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้

จังหวัดพิจิตร แบ่งการปกครองออกเป็น 12 อำเภอ 89 ตำบล 888 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ที่อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและใกล้เคียงประกอบกับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นบางพื้นที่เป็นเส้นทางน้ำหลากและลุ่มต่ำ ทำให้เกิดน้ำไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน ได้รับความเสียหายใน 12 อำเภอ รวม 71 ตำบล 482 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 2,643 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว เหลือบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วมขัง