กรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจสอบกรณีมีการโพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความ จะมีพายุเข้าตั้งแต่ 1 ทุ่มคืนวันนี้ (7 ต.ค.) และต่อเนื่องถึง 5 วัน ให้เตรียมตัวรับมือเรื่องน้ำท่วมนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นข้อมูลบิดเบือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเก่า เป็นข้อมูลผลการพยากรณ์ความน่าจะเป็นของโอกาสการก่อตัวเป็นพายุจากศูนย์พยากรณ์อากาศยุโรประยะปานกลาง ค่าสีแสดงถึงโอกาสการก่อตัวของพายุ ตั้งแต่ระดับหย่อมความกดอากาศต่ำ (cyclonic) เชดสีเป็นโอกาสที่จะเกิด คิดในรอบ 48 ชม. สีเขียวประมาณ 50 % เท่านี้ สีน้ำเงินมีโอกาสสูงที่จะเป็นพายุ โดยข้อมูลจะมีการอัปเดต วันละ 2 เวลา คือ 07.00 น. และ 19.00 น. หากวิเคราะห์ตามเชดสี ช่วงวันที่ 8-11 ตุลาคม 2564 จะเป็นร่องมรสุมพาดผ่านทางภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน (ไม่ใช่เส้นทางพายุ)
ส่วนปริมาณฝนปี 2564 นั้น หากเทียบกับปี 2554 ยังต่ำกว่าเกือบร้อยละ 20 ซึ่งฝนที่ตกนั้นเกิดจากร่องมรสุมพาดผ่าน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีกำลังค่อนแรง ฝนส่วนใหญ่จึงตกบริเวณภาคกลาง (รวม กทม.และปริมณฑล) ภาคอีสานตอนล่างและภาคใต้ แต่หลังกลางเดือนตุลาคม ฝนทางตอนบนจะเริ่มน้อยลง ฝนจะเพิ่มขึ้นทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล จากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว
สำหรับวันนี้ (7 ต.ค.) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564 ซึ่งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ และขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย จึงขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยพายุอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนปริมาณฝนปี 2564 นั้น หากเทียบกับปี 2554 ยังต่ำกว่าเกือบร้อยละ 20 ซึ่งฝนที่ตกนั้นเกิดจากร่องมรสุมพาดผ่าน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีกำลังค่อนแรง ฝนส่วนใหญ่จึงตกบริเวณภาคกลาง (รวม กทม.และปริมณฑล) ภาคอีสานตอนล่างและภาคใต้ แต่หลังกลางเดือนตุลาคม ฝนทางตอนบนจะเริ่มน้อยลง ฝนจะเพิ่มขึ้นทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล จากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว
สำหรับวันนี้ (7 ต.ค.) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564 ซึ่งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ และขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย จึงขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยพายุอย่างใกล้ชิดต่อไป