พล.ต.อ.พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังการประชุมชุดสืบสวนมอบสวนคดีร่วมกันฟอกเงินของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังจากถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดียาเสพติดภายในห้องสอบสวน และมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์
หลังจากนั้นได้มีการขยายผลไปตรวจสอบในบ้านพักของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ซึ่งพบมีรถยนต์หรูอยู่จำนวนมาก จนนำไปสู่การตรวจสอบถึงการครอบครอง และยังพบว่ามีรถยนต์ 410 คัน ที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เกี่ยวข้องกับการยึดอายัดในขณะที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เบื้องต้นพบว่ามีแจ้งหายไว้ในต่างประเทศ 270 คัน แบ่งเป็น หายก่อนการถูกยึดอายัด 101 คัน และหลังการถูกยึดอายัด 169 คัน ส่วนที่เหลือยังไม่พบข้อมูล และยังพบว่ามีตำรวจอีกจำนวนหนึ่งร่วมในการจับกุมรถยนต์หรู
ขณะนี้ได้ตรวจสอบถึงผู้เสียหายในต่างประเทศที่แจ้งความว่ารถยนต์หาย แต่ก็ไม่พบข้อมูล จึงเชื่อได้ว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวก ร่วมกันตรวจยึดรถยนต์หรูกันเป็นขบวนการ แล้วนำมาส่งให้กรมศุลกากรออกประมูล และจะได้รางวัลนำจับร้อยละ 5 ของราคาประเมิน ส่วนผู้ที่ประมูลรถยนต์ออกไปยังพบว่าเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกัน และอยู่ระหว่างการรอเอกสารจากกรมศุลกากรมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รถยนต์ทั้งหมดเป็นการจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บางคันยึดมาก่อนที่รถจะเข้ามาถึงประเทศไทย และส่วนใหญ่เป็นรถที่มาจากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับตำรวจและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และเตรียมส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ยังกล่าวถึงผู้ที่ปล่อยคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดขณะที่มีการทำร้ายผู้ต้องหา จากการสอบสวนพบว่ามีการโหลดคลิปวงจรปิดลงในโทรศัพท์มือถือแล้วส่งต่อกันในกลุ่มของตำรวจด้วยกันก่อนจะหลุดไปสู่สาธารณะ แต่ยืนยันว่าผู้ที่ปล่อยคลิปไม่มีความผิด