นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของแอสตร้าเซนเนก้า จากฮังการี จำนวน 400,000 โดส พร้อมอนุมัติให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้ลงนามในร่าง Bilateral Agreement ระหว่างฮังการีกับไทย และร่าง Tripartite Agreement ระหว่างฮังการี ไทย และ AstraZeneca
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของร่าง Tripartite Agreement ประกอบด้วย การขนส่งวัคซีน กรรมสิทธิ์และความเสี่ยง การรักษาความลับ กฎหมายที่ใช้บังคับและการยุติข้อพิพาท และ Indirect taxes/VAT ซึ่งจะใช้ร่างเอกสารแบบเดียวกับที่ไทยจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากราชอาณาจักรสเปนเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระสำคัญ ได้แก่ Indirect taxes/VAT การส่งมอบ และกฎหมายที่ใช้บังคับ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้ครบ 126.2 ล้านโดส มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถฉีดวัคซีนให้ได้อย่างร้อยละ 70 ของประชากรกลุ่มเป้าหมายภายในเดือนธันวาคม 2564
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็ก/เยาวชนที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความมั่นใจในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ด้วย