xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง-พระราชินี โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญถุงพระราชทานมอบแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย จ.พระนครศรีอยุธยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

วันนี้ (30 กันยายน 2564) เวลา 10.20 น.นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ องคมนตรีได้เชิญพระบรมราโชบายในการป้องกันและแก้ไขการเกิดภัยธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวในที่ประชุมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์ ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอผักไห่

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ

ในการนี้ องคมนตรีได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยซึ่งเป็นผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลบางหลวงโดด อำเภอหักไห่ จำนวน 5 ครอบครัว และพื้นที่ตำบลกุฎี อำเภอบางบาล จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระมหากรุณาในครั้งนี้

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แบ่งการปกครองออกเป็น 16 อำเภอ 209 ตำบล สืบเนื่องจากในห้วงวันที่ 1-10 กันยายน 2564 ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนโกนเซิน และในวันที่ 24 กันยายน 2564 พายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนของแม่เจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำฝนไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้น 2,749 ลูบกาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับมีแม่น้ำถึง 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก ไหลผ่าน และมีคลองธรรมชาติอีก 437 คลอง อยู่ในพื้นที่ และในบางพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำและรับน้ำในฤดูน้ำหลาก จึงทำให้บ้านเรือนราษฎร พื้นที่ทางการเกษตรริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง คลองบางบาล ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำชลประทาน ถูกน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน สถานที่ราชการ ได้รับความเสียหายและผลกระทบใน 6 อำเภอ 72 ตำบล 445 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 15,686 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว เหลือในบางพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่รับน้ำยังคงถูกน้ำท่วม