นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 6 นำเครื่องสูบน้ำเข้าติดตั้งจุดต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบริเวณที่ระดับน้ำลดต่ำลงจนสามารถสูบระบายได้แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ระดับน้ำท่วมสูงมาก ท่วมเครื่องสูบน้ำ จึงเดินเครื่องไม่ได้
ทั้งนี้ จังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีน้ำท่วมขัง 16 อำเภอ ส่วนในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่มีน้ำเต็มความจุเก็บกัก ได้แก่ เขื่อนลำปะทาว (ล่าง) ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน มีน้ำ 18.68 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 114 ของความจุอ่าง แนวโน้มลดลง มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้นสูง 46 เซนติเมตร และอ่างเก็บน้ำลำคันฉู มีน้ำ 47.26 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 110 ส่งผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายอ่าง โดยน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำ จึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 8 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 8 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว
ทางด้านนายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ได้นำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 7 เครื่อง ติดตั้งบริเวณถนนเลี่ยงเมืองชัยภูมิ 3 เครื่อง สะพานกุดแคน 2 เครื่อง และสะพานกุดจานอีก 2 เครื่อง สามารถสูบระบายน้ำได้ในอัตรา 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นอกจากนี้ ยังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง ที่สะพานข้ามลำปะทาว ถนนเลี่ยงเมืองชัยภูมิ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้ในอัตรา 750,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หากปริมาณน้ำที่ท่วมขังลดระดับลงกว่านี้ จะนำเครื่องจักร-เครื่องมือซึ่งเตรียมพร้อมไว้ที่จังหวัดขอนแก่น เข้ามาช่วยเร่งระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ชาวชัยภิมูกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วที่สุด