จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความแชทระบุว่า จากเหตการณ์ม็อบวันที่ 23 กันยายน 2564 มีเยาวชนถูกตำรวจจับและรีดไถเงินจากครอบครัว 10,000 บาทนั้น
ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ทําการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่มาก่อความไม่สงบ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ระหว่างแยกใต้ทางด่วนดินแดง ต่อเนื่องถึงถนนมิตรไมตรี ผู้ต้องหารวมจํานวน 15 คน (ชาย 9 คน หญิง 6 คน (เด็กหรือ เยาวชน ชาย 4 คน หญิง 5 คน รวม 9 คน) นําตัวมาควบคุมที่ สน.ห้วยขวาง
โดยในการจับกุมพบของกลางมีดังนี้ หนังสติกด้ามไม้ 1 อัน พร้อมลูกแก้ว 10 ลูก, มีดพับพกสั้น สีเงิน ความยาว 18 ซม. 1 ด้าม, รถ จักรยานยนต์ 8 คัน, วิทยุสื่อสารสีแดง 1 เครื่อง และได้ดําเนินคดีข้อหา “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนรวมกันมากกว่ายี่สิบห้าคนในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคําสั่งกําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กําลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นใน บ้านเมือง โดยผู้ร่วมกระทําผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทําความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไปแต่ผู้นั้นไม่เลิก ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม (21.00-04.00 ของวันรุ่งขึ้น) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น (เฉพาะผู้ต้องหาที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์), พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร (เฉพาะผู้ต้องหาที่มีอาวุธ), มี และ ใช้ ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต (เฉพาะผู้ต้องหาที่มี เครื่องวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาต)”
หลังจากจับกุมพนักงานสอบสวนได้ทําการสอบสวน ควบคุมตัวตามกฎหมาย โดยไม่ได้มีการเรียกรับเงินแลกกับการปล่อยตัวแต่อย่างใด ซึ่งผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชน ได้นําตัวไปตรวจสอบการ จับ ยื่นคําร้องผัดฟ้องฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 ในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ ได้นําตัวไปยื่นคําร้องฝากขังเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาล ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวทุกคน
สําหรับผู้ต้องหาอีก 1 คน เป็นการจับกุมบุคคลที่อ้างว่าเป็นสื่อมวลชนแต่ไม่มีเอกสารแสดงตัว หรือเอกสารการได้รับอนุญาตให้ออกนอกเคหสถานในเวลาห้าม เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ดําเนินคดีในข้อหา “ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม (21.00-04.00 ของวันรุ่งขึ้น) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยเรียกหลักทรัพย์ประกันตัว เป็นเงินจํานวน 10,000 บาท และได้ปล่อยตัวชั่วคราวตามกฎหมาย ไม่มีการเรียกเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวโดยไม่ได้ดําเนินคดีแต่อย่างใด
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.royalthaipolice.go.th หรือโทร 1599