นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเดือนกันยายน ว่า มีวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ ทั้งหมด 16 ล้านโดส และยังมีวัคซีนทางเลือกอย่างซิโนฟาร์มอีก 10 ล้านโดส ทำให้ยอดผู้ฉีดวัคซีนค่อนข้างมาก และในเดือนตุลาคม จะมีซิโนแวคอย่างน้อย 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ทำให้ยอดรวมวัคซีนที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข จัดหาอย่างน้อย 24 ล้านโดส และซิโนฟาร์มอย่างน้อย 6 ล้านโดส ดังนั้น เดือนตุลาคมนี้ จะเป็นเดือนที่มีการฉีดวัคซีนแบบก้าวกระโดด
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ที่เป็นซิโนแวค เข็ม 1 และแอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 ทำให้สามารถฉีดวัคซีนเข็ม 2 มากขึ้น โดยสิ้นเดือนกันยายน สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อยู่ที่ 32 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ส่วนเข็ม 2 ฉีดได้ 18 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 25 แต่หลังจากเดือนตุลาคม เป็นต้นไป การฉีดจะก้าวกระโดด อย่างสิ้นเดือนตุลาคม จะครอบคลุมฉีดเข็ม 1 อย่างน้อย 41 ล้านคน หรือร้อยละ 58 ของประชากรคนไทยที่อยู่ในแผ่นดินไทย และเดือนพฤศจิกายน ฉีดสะสมให้คนที่อยู่ในแผ่นดินไทย 50 ล้านคน หรือร้อยละ 71 และสิ้นเดือนธันวาคม เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 60 ล้านคน หรือร้อยละ 85% ของประชากร
ส่วนเข็มที่ 2 สิ้นเดือนกันยายน ฉีดได้สะสม 18 ล้านคน หรือร้อยละ 25 ขณะที่สิ้นเดือนตุลาคม ฉีดได้สะสม 30 ล้านคน หรือร้อยละ 45 สิ้นเดือนพฤศจิกายน ฉีดได้ 42 ล้านคน หรือร้อยละ 60 และสิ้นเดือนธันวาคม ฉีดสะสม 52 ล้านคน หรือร้อยละ 74 ส่วนเข็มที่ 3 เริ่มฉีดปลายกันยายน เมื่อถึงสิ้นเดือนธันวาคม คาดว่าจะฉีดได้สะสม 7 ล้านโดส
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ตัวเลขที่วางไว้จะเกินเป้าหมาย หากฉีดได้ตามที่วางแผน จะทำให้สถานการณ์การติดเชื้อและเสียชีวิตลดน้อยลง และประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
