xs
xsm
sm
md
lg

ฎีกายกฟ้อง"วิศวกร"คดีแก๊สระเบิด SCB สำนักงานใหญ่ ปี 2559

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีสารเคมีระบบดับเพลิงไพโรเจนฟุ้งกระจายจนมีผู้เสียชีวิต ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคม 2559 จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ในคดีหมายเลขดำ อ.1764/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 และครอบครัวของนายวิรัช ดีดพิณ นายพีรพัฒน์ กอยประโคน และ น.ส.กรรณิการ์ ประจิตร์ หรือสินศิริ คนงานที่เสียชีวิตระหว่างติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นาย ณ.พงษ์ สุขสงวน อายุ 49 ปี ประธานกรรมการบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด นายอดิศร โฟดา อายุ 55 ปี ผู้บริหาร บจก.เมก้าแพลนเน็ต นายจิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ อายุ 34 ปี วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ นายสมคิด ตันงาม อายุ 63 ปี กก.บจก.โจนส์ แลงฯ นายสมคิด จันทร์หอม อายุ 40 ปี หัวหน้าช่าง บจก.โจนส์ แลงฯ นายตรีภพ ยังประเสริฐกุล อายุ 41 ปี ผู้จัดการดูแลอาคาร บจก.โจนส์ แลงฯ น.ส.ขจรจิตร พรหมดีราช อายุ 49 ปี พนักงานบริษัท เอบิต มัลติซิสเต็ม จำกัด ที่รับช่วงต่อจาก บจก.เมก้า แพลนเน็ต ควบคุมดูแลการวางท่อระบบดับเพลิงภายในอาคาร นายบุญเสริม กระจาด อายุ 40 ปี วิศวกร บจก.เอบิต มัลติซิสเต็ม ที่คุมคนงาน, บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด โดยนาย ณ. พงษ์ สุขสงวน และนายอดิสร โฟดา กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด โดยนายสมคิด ตันงาม กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390

คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 เห็นว่า จำเลยที่ 1, 2 , 3, 9 มีความประมาทร่วมด้วยทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตขึ้น ให้ลงโทษฐานร่วมกันกระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุกจำเลยที่ 1-3 คนละ 2 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1-3 ไม่เคยต้องโทษมาก่อน อีกทั้งความประมาทที่เกิดขึ้นในการปิดระบบดับเพลิงเดิม ก็นอกเหนือจากความสามารถของจำเลย จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้คนละ 2 ปี ส่วน บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 ให้ปรับ 20,000 บาท และจำเลยที่ 1-3, 9 ร่วมกันชดใช้เงินญาติผู้ตายที่เป็นโจทก์ร่วมด้วย 5 คน รวม 2.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันเกิดเหตุ 13 มีนาคม 2559 ส่วนจำเลยที่ 4-8 และ 10 พิพากษายกฟ้อง โจทก์ ยื่นอุทธรณ์

ต่อมาวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง นาย ณ.พงษ์ และนายอดิศร จำเลยที่ 1-2 และยกคำร้องที่บังคับให้จำเลยที่ 1-2 ชดเชยค่าสินไหมทดแทนด้วย พร้อมให้นายจิระวัฒน์ จำเลยที่ 3 และบริษัท เมก้าฯ จำเลยที่ 9 ชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ร่วมที่ 1 นับจากวันฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น พนักงานอัยการโจทก์-โจทก์ร่วม และจำเลยที่ 3, 9 ยื่นฎีกา

โดยในวันนี้ นายจิระวัฒน์ จำเลยที่ 3 และผู้บริหาร บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด 2 คน ที่เป็นจำเลยที่ 9 เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมญาติและบุคคลใกล้ชิดที่เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ

ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3 และที่ 9 เสียด้วย ยกคำร้องขอให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนของโจทก์ร่วมที่ 1 ที่ 2ที่ 6 ที่ 10 และที่ 11 ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาสอุทธรณ์