นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "การตัดสินใจของนายกฯ กับ การคัดคนดีเสริมทีม" กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,224 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 98.4 สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับคณะรัฐมนตรี เอาคนไม่มีผลงานออกและนำคนดีมีความสามารถเป็นที่ยอมรับของสังคมมาเสริมทีม
ที่น่าพิจารณา คือ ร้อยละ 98.3 ยังคงจดจำคำพ่อสอน ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง ควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 98.2 สนับสนุนการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 98.6 ต้องการเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดการผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี ไม่ปล่อยคนชั่วลอยนวล และส่วนใหญ่เช่นกันหรือร้อยละ 90.1 สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เอาข้าราชการที่ดี เก่ง กล้า ช่วยเหลือประชาชนมาเสริมทีมรัฐบาลและเอาข้าราชการที่ไม่มีผลงานไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม
ที่น่าสนใจ คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.6 เช่นกัน ต้องการเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิสูจน์ผลงานขับเคลื่อนนโยบายและกลไกรัฐ แก้วิกฤตชาติและประชาชนให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นไปอีก
นายนพดล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังระลึกจดจำคำพ่อสอน ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง คุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ และสนับสนุนความกล้าตัดสินใจเด็ดขาดของนายกรัฐมนตรีปลดรัฐมนตรีที่สังคมไม่ยอมรับออกจากการบริหารราชการแผ่นดิน โดยสนับสนุนให้ปรับคณะรัฐมนตรีนำรัฐมนตรีไม่มีผลงานออก และนำคนดีมากความรู้ความสามารถและเป็นที่ยอมรับมาเสริมการทำงาน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ จัดการ สะสางเอาผิดกับผู้กระทำผิกฎหมายอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี ไม่ปล่อยคนชั่วลอยนวล
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีใช้โอกาสปรับย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ วาระตุลาคม เฟ้นคัดสรรเอาคนดี คนทำงาน มากความสามารถ เข้ามารับตำแหน่งสำคัญในระดับต่างๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนฟื้นฟูประเทศยามวิกฤต โดยส่วนใหญ่อยากเห็นการปฏิรูปกระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆ ทางราชการ โดยต้องการให้รัฐบาลเร่งพิสูจน์ผลงานขับเคลื่อนนโยบายและกลไกของรัฐ ตอบสนองแก้วิกฤตชาติให้เป็นรูปธรรมมากกว่าที่เป็นอยู