xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลชู 2 โครงการ ธอส.-กคช.สร้างโอกาสคนไทยมีบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในส่วนความคืบหน้าและผลการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทำงานหรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ล่าสุด คณะรัฐมนตรีเห็นชอบปรับเพิ่มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 รวมวงเงินโครงการ 70,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย (Post Finance) เพื่อจัดซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย พร้อมขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือเมื่อสินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินแล้ว ทั้งนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้ขับเคลื่อนมาตรการออกแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ออกโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2) ปรับเพิ่มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท รวมวงเงินโครงการทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท และปรับหลักเกณฑ์เงื่อนไข ให้ผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง มีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มากขึ้น อาทิ ไม่กำหนดเกณฑ์รายได้ผู้กู้ แต่เงินงวดผ่อนชำระรายเดือนต้องไม่เกิน 1 ใน 2 ของรายได้สุทธิต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.99% ต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปี เป็นต้น ซึ่งพบว่า ผลการดำเนินโครงการบ้านล้านหลัง ของ ธอส. มียอดอนุมัติสินเชื่อ ตามโครงการบ้านล้านหลังแก่ลูกค้ารายย่อย (Post Finance) จำนวน 52,514 ราย เป็นจำนวนเงิน 39,522.37 ล้านบาท (กรอบวงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็น 1) กลุ่มรายได้/เดือน/คนไม่เกิน 25,000 บาท จำนวน 43,643 ราย เป็นจำนวนเงิน 33,049.02 ล้านบาท และ 2) กลุ่มรายได้/เดือน/คนเกิน 25,000 บาท จำนวน 8,871 ราย เป็นจำนวนเงิน 6,473.35 ล้านบาทและ คาดว่าภายในเดือนสิงหาคม 2564 จะมียอดการทำนิติกรรมทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาท

ขณะที่การเคหะแห่งชาติ ออกโครงการบ้านเคหะสุขเกษม เสนอปรับปรุงทรัพย์สินโครงการบ้านเอื้ออาทรบางส่วนมาดำเนินการให้เป็นห้องเช่าราคาถูกแก่ผู้สูงอายุ ปรับปรุงพัฒนาอาคารเช่าสำหรับผู้สูงอายุ ข้าราชการ และพนักงานของรัฐที่เกษียณอายุ เป็นโครงการต้นแบบชื่อ "โครงการบ้านเคหะสุขเกษม" นำร่อง ณ จังหวัดสมุทรปราการ และกำลังเร่งศึกษาความเหมาะสมของแผนโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ซึ่งในแผนจะเป็นอาคารสูง 5 ชั้น 4 อาคาร ทุกอาคารติดลิฟต์ แผนการดำเนินงาน 3 ปี (2564-2566) แบ่งเป็น 4 ระยะ รวม 4,089 หน่วย ขนาดพื้นที่ 33 ตารางเมตร และ 27 ตารางเมตรต่อหน่วยที่พักอาศัย มีศูนย์ดูแลสุขภาพ พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จัดกิจกรรม คลินิกอายุรกรรม ศูนย์สุขภาพ เป็นต้น โดยจะคิดอัตราค่าเช่าประมาณ 2,500-3,000 บาท

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามเสริมสร้างระบบการเงินและระบบสินเชื่อที่เอื้อต่อการมีที่อยู่อาศัยของประชาชนทุกระดับรายได้ อาทิ การสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อส่งเสริมให้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคาถูก และการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างเสมอภาค ด้วยความมุ่งหวังตั้งใจจะยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านที่อยู่อาศัยทั่วหน้า