xs
xsm
sm
md
lg

7 สายการบินนัดคุยขุนคลัง 7 ก.ย.นี้ หารือขอสนับสนุนซอฟต์โลนรักษาสภาพการจ้างงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมาคมสายการบินประเทศไทย ที่ประกอบด้วย 7 สายการบิน ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ไทยสมายล์ นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท นัดประชุมร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในวันที่ 7 กันยายนนี้ เวลา 15.30-16.30 น. เพื่อขอหารือเพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้ในการขอซอฟต์โลนเพื่อรักษาสภาพการจ้างงาน วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับนำมาใช้จ่ายด้านการจ้างงานในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2564

ที่ผ่านมาสายการบินต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการถูกสั่งห้ามบินในประเทศเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้ม ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฏาคม 2564 และแม้ว่าขณะนี้ภาครัฐจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้สายการบินเปิดทำการบินเส้นทางบินภายในประเทศเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้มได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา แต่แนวโน้มในช่วงแรกของการคลายล็อกจะยังมีผู้โดยสารไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทางเท่านั้น ทำให้การดำเนินธุรกิจของสายการบินยังคงเต็มไปด้วยความยากลำบากมาก ดังนั้น สายการบินจึงยังคงต้องการซอฟต์โลนเพื่อพยุงการจ้างของพนักงาน 2 หมื่นคน ซึ่งจากที่เคยร้องขอให้กระทรวงการคลังสนับสนุนซอฟต์โลนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 จาก 2.4 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ขอสนับสนุนเพียง 5 พันล้านบาท สำหรับการจ่ายเงินเดือนพนักงานเท่านั้น ซึ่งจากการหารือจากเอ็กซิมแบงก์ ล่าสุด ทางเอ็กซิมแบงก์ต้องการให้สายการบินมีหลักประกันมาประกอบการขอกู้เงิน รวมทั้งยังมีเงื่อนไขประกอบการพิจารณา เช่น ความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งธนาคารมองจุดนี้เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากสายการบินได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และนโยบายการหารายได้จากค่าตั๋วโดยสารที่มีราคาต่ำ และมีเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแต่ยังมีภาระค่าเช่าเครื่องบินที่ต้องชำระ รวมถึงพิจารณาดอกเบี้ยและระยะเวลาการชำระหนี้

ดังนั้น จึงต้องการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอให้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขในเรื่องเหล่านี้ เพราะสายการบินส่วนใหญ่ไม่มีสินทรัพย์ เนื่องจากเครื่องบินเป็นเครื่องบินเช่า โดยขอให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้าง ระยะที่ 2 (ปี 63-64) ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพยุงการจ้างงาน แต่ติดเงื่อนไขว่าสินเชื่อดังกล่าวซึ่งมีวงเงินอยู่ไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท จะปล่อยให้เฉพาะสถานประกอบการรายเล็กได้สูงสุดรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อสถานประกอบการเท่านั้น

ทั้งนี้ ต้องการขอให้รัฐขยายการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวผ่านสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการนี้กับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีเอสเอ็มอีแบงก์ร่วมอยู่ในโครงการนี้ด้วย เพื่อครอบคลุมธุรกิจรายใหญ่ให้ปล่อยกู้เกิน 1 พันล้านบาท ได้ด้วย เพื่อให้สายการบินมีโอกาสที่จะไปยื่นขอใช้สินเชื่อดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอแก้ไขเงื่อนไขดังกล่าว