นายแพทย์พิชญา นาควัชระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง ผู้รับผิดชอบโรงพยาบาลสนาม มณฑลทหารบกที่ 11 กล่าวว่า กองทัพบก โดยมณฑลทหารบกที่ 11 ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกลุ่ม Thonburi Healthcare Group โดยโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง จะดำเนินการขยายเตียงของโรงพยาบาลสนาม มณฑลทหารบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ เฟส 3 เพิ่มเติมอีก 188 เตียง ซึ่งเป็นศูนย์พักคอยระดับสูง เพื่อเข้าสู่ระบบ Community Isolation (CI plus)
สำหรับในเฟส 3 จะเพิ่มบริการตรวจ ATK และ RT-PCR ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงแบบ Walk thru และ Drive thru โดยจำกัดการตรวจ ATK 1,000 รายต่อวัน (นัดผ่านระบบ QueQ) และ RT-PCR 400 รายต่อวัน (แบบ Drive thru) โดยควรมีการลงทะเบียนล่วงหน้า เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระบบการจราจรใน มทบ.11
การบริการการตรวจ ATK จะมีเตียงรองรับผู้เปราะบาง188 เตียง ซึ่งจะเข้าพักคอยรอผลการตรวจ RT-PCR เพื่อนำส่ง Hospitel หรือโรงพยาบาลสนาม หรือสามารถพักในศูนย์พักคอยระดับสูง (CI plus) โดยการส่งต่อผู้ป่วยขึ้นกับสภาวะการเจ็บป่วย ส่วนผู้ป่วยผลบวกจาก ATK ที่เเข็งแรง จะได้รับยาและเข้าสู่ระบบ Home Isolation (HI)
หลังจากที่โรงพยาบาลสนาม มทบ.11 เฟส 1 ได้เปิดดำเนินการจำนวน 154 เตียง ไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เเละเฟส 2 เปิดดำเนินการในวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา จำนวน 152 เตียง โดยมีความเพียบพร้อมของอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับ ICU และระบบสนับสนุนต่างๆ ซึ่งมีความทันสมัยสูงสุด เช่น CCTV สามารถพูดโต้ตอบกับคนไข้ เเละพยาบาล ในห้องโซนโควิด-19 เเดงได้ทุกเตียง การสร้างห้องน้ำ ห้องอาบน้ำความดันลบไว้ในหอผู้ป่วยเพื่อความสะดวกของผู้ป่วยที่ยังพอลุกจากเตียงได้โดยที่ไม่ต้องเดินไกล พร้อมทั้งมีห้องฝึกอบรมพยาบาลและบุคลากรอื่นๆ ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติงานดูแลคนไข้โควิด-19 ในห้อง ICU จำลองเสมือนจริงแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีการแบ่งเนื้อหาชุดวิชาของการฝึกอบรมเป็น 7 สถานี ตามขั้นตอนสำหรับการปฏิบัติงานจริง และปัจจุบันได้มีผู้ป่วยเข้ารับบริการในโรงพยาบาลทั้งสองเฟสจนเต็มขีดความสามารถ
ทั้งนี้ การบริการในเฟส 1และ 2 มีจำนวนเตียงรวมกัน 306 เตียง สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีแดง 178 เตียง ระดับเหลือง 128 เตียง มีขีดความสามารถของอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ (ventilator) 36 เครื่อง เครื่อง High flow 126 เครื่อง และรองรับผู้ป่วยระดับ Oxygen Cannula อีก 144 เตียง ในกรณีจำเป็น ได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสถานที่เพื่อรองรับการเพิ่มของเครื่องช่วยหายใจ Ventilator ได้สูงสุดถึง 118 เครื่อง (ในบริเวณชั้นล่างของยูนิต A B C D ของ มทบ.11 เฟส 1 จำนวน 58 เตียง และชั้นล่างของยูนิต W X Y Z ของ มทบ.11 เฟส 2 จำนวน 60 เตียง) ส่วนเครื่อง High flow เตรียมไว้ถึง 160 เครื่อง รวมถึงจะเปิดการบริการการล้างไตในห้องความดันลบ ให้แก่ผู้ป่วยโควิดเขียว ซึ่งอาจไม่สามารถหาศูนย์ล้างไตที่ปลอดภัยได้ เมื่อรวมการบริการเต็มโครงการจะทำให้มีจำนวนเตียง 494 เตียง ซึ่งมีขีดความสามารถขั้นสูงสุดในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเหลืองและสีแดง
นายแพทย์พิชญา ย้ำว่า การปฏิบัติการครั้งนี้มีเจตนาเพื่อเป็นการช่วยเหลือดูแลรักษาผู้ป่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาให้มากที่สุดและดีที่สุดอย่างถ้วนหน้าทุกๆ คน