นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการเก็บรักษายาเสพติดให้โทษของกลาง ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้เก็บรักษายาเสพติดให้โทษของกลางในระหว่างการพิจารณาคดีไว้ ณ คลังยาเสพติดให้โทษของกลาง จนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งหรือพิพากษาให้ริบของกลาง จึงจะสามารถทำลายได้
ในปี 2564 นี้ มียาเสพติดที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งหรือพิพากษาให้ริบของกลาง จำนวนรวมกว่า 27,806 กิโลกรัม จาก 138 คดี มูลค่ารวมกว่า 29,916 ล้านบาท โดยมีเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ที่มีน้ำหนักมากสุดกว่า 15,890 กิโลกรัม รองลงมาคือเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนักกว่า 10,817 กิโลกรัม เฮโรอีนน้ำหนักกว่า 697 กิโลกรัม และยาอีกว่า 16 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีวัตถุออกฤทธิ์น้ำหนักรวมกว่า 383 กิโลกรัม ซึ่งจะนำไปเผาทำลายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564
รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ก่อนจะนำยาเสพติดให้โทษของกลางไปเผาทำลาย ในวันนี้คณะทำงานตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง ประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี กรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพบก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะต้องตรวจสอบยาเสพติดให้โทษของกลาง เพื่อให้ทราบน้ำหนัก ลักษณะ และประเภทของยาเสพติด พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจเบื้องต้นว่าเป็นยาเสพติดจริง
หลังจากนั้นจะห่อหุ้มยาเสพติดให้โทษของกลางที่ผ่านการตรวจสอบแล้วบรรจุลงหีบห่อติดหมายเลข จากนั้นคณะทำงานตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลางลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกหีบห่อ และเก็บไว้ในคลังยาเสพติด โดยติดเทปกระดาษที่ลงลายมือชื่อของคณะทำงานตรวจรับฯ กำกับไว้ที่ประตู เมื่อเสร็จแล้วคณะกรรมการเก็บรักษารหัสและกุญแจคลังยาเสพติดให้โทษของกลางจะมอบให้ประธานคณะทำงานตรวจรับฯ พ.ต.ท. ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เป็นผู้ถือกุญแจเอาไว้
ทั้งนี้ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เวลา 05.00 น.ประธานคณะกรรมการตรวจรับฯ จะเป็นผู้เปิดประตูคลังด้วยการตัดเทปกระดาษที่ปิดไว้ออกเพื่อนำยาเสพติดให้โทษของกลางที่ตรวจรับไว้แล้วส่งมอบให้คณะทำงานขนย้ายยาเสพติดให้โทษของกลางที่มี พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมทั้งร่วมกันลงลายมือชื่อในหนังสือตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลางและนำยาเสพติดไปเผาทำลายที่ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ต่อไป
ในปี 2564 นี้ มียาเสพติดที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งหรือพิพากษาให้ริบของกลาง จำนวนรวมกว่า 27,806 กิโลกรัม จาก 138 คดี มูลค่ารวมกว่า 29,916 ล้านบาท โดยมีเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ที่มีน้ำหนักมากสุดกว่า 15,890 กิโลกรัม รองลงมาคือเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนักกว่า 10,817 กิโลกรัม เฮโรอีนน้ำหนักกว่า 697 กิโลกรัม และยาอีกว่า 16 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีวัตถุออกฤทธิ์น้ำหนักรวมกว่า 383 กิโลกรัม ซึ่งจะนำไปเผาทำลายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564
รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ก่อนจะนำยาเสพติดให้โทษของกลางไปเผาทำลาย ในวันนี้คณะทำงานตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง ประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี กรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพบก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะต้องตรวจสอบยาเสพติดให้โทษของกลาง เพื่อให้ทราบน้ำหนัก ลักษณะ และประเภทของยาเสพติด พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจเบื้องต้นว่าเป็นยาเสพติดจริง
หลังจากนั้นจะห่อหุ้มยาเสพติดให้โทษของกลางที่ผ่านการตรวจสอบแล้วบรรจุลงหีบห่อติดหมายเลข จากนั้นคณะทำงานตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลางลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกหีบห่อ และเก็บไว้ในคลังยาเสพติด โดยติดเทปกระดาษที่ลงลายมือชื่อของคณะทำงานตรวจรับฯ กำกับไว้ที่ประตู เมื่อเสร็จแล้วคณะกรรมการเก็บรักษารหัสและกุญแจคลังยาเสพติดให้โทษของกลางจะมอบให้ประธานคณะทำงานตรวจรับฯ พ.ต.ท. ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เป็นผู้ถือกุญแจเอาไว้
ทั้งนี้ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เวลา 05.00 น.ประธานคณะกรรมการตรวจรับฯ จะเป็นผู้เปิดประตูคลังด้วยการตัดเทปกระดาษที่ปิดไว้ออกเพื่อนำยาเสพติดให้โทษของกลางที่ตรวจรับไว้แล้วส่งมอบให้คณะทำงานขนย้ายยาเสพติดให้โทษของกลางที่มี พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมทั้งร่วมกันลงลายมือชื่อในหนังสือตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลางและนำยาเสพติดไปเผาทำลายที่ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ต่อไป