นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกันอย่างต่อเนื่องหลายฉบับ รวมถึงแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับปี 2562-2564 ซึ่งจะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ โดย วธ.อยู่ระหว่างการเตรียมการจัดทำแผนปฏิบัติการฯ ฉบับใหม่ โดยจะเสนอให้ขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 4 ปี สำหรับปี 2565-2568 เพื่อให้รองรับกับการดำเนินกิจกรรมเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปี 2568 ด้วย และพิจารณาบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายใต้ความตกลงระหว่างกันว่าด้วยการจัดตั้งและสถานะของศูนย์วัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ เพื่อการแลกเปลี่ยนกิจกรรมและองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ซึ่งปัจจุบันฝ่ายจีนได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจีนในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น วธ.จึงจะมีการศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีน เพื่อเป็นหน่วยงานสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้และกิจกรรมด้านวัฒนธรรมไทยแก่ชาวจีน
นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า วธ.จึงร่วมกับสถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการเสวนาระดมความคิดแนวทางการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีน (ผ่านระบบประชุมออนไลน์) ในวันที่ 1 กันยายนนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและเครือข่ายวัฒนธรรมทุกภาคส่วนเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประเมินและสังเคราะห์เป็นข้อสรุปแนวทางในการดำเนินการของศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีนต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างและต่อยอดความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างกันอย่างไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็น นาฏศิลป์ ภาพยนตร์ จิตรกรรม ประติมากรรม และมรดกภูมิปัญญา โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการฯ และกิจกรรมความร่วมมือกับฝ่ายจีนอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า วธ.จึงร่วมกับสถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการเสวนาระดมความคิดแนวทางการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีน (ผ่านระบบประชุมออนไลน์) ในวันที่ 1 กันยายนนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและเครือข่ายวัฒนธรรมทุกภาคส่วนเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประเมินและสังเคราะห์เป็นข้อสรุปแนวทางในการดำเนินการของศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีนต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างและต่อยอดความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างกันอย่างไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็น นาฏศิลป์ ภาพยนตร์ จิตรกรรม ประติมากรรม และมรดกภูมิปัญญา โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการฯ และกิจกรรมความร่วมมือกับฝ่ายจีนอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
