ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในวาระ 2 มาตรา 11 งบประมาณกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมาก 314 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ ได้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในวาระ 2 มาตรา 11 กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณ 2,893 ล้านบาท ในชั้น กมธ.ปรับลดงบประมาณลงไปอีก 71 ล้านบาท ทำให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับงบประมาณ 2,835 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณที่ได้รับการจัดเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมา ที่ได้การจัดสรร 6,092 ล้านบาท จะเห็นได้ว่างบประมาณปี 2565 หายไป 40-50% และทางสำนักงบประมาณได้แจ้งว่าเป็นการปรับลดให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ จากการที่นายกรัฐมนตรีประกาศจะฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้ให้ได้ 50 ล้านคน หรือ 70% เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้าสู่ประเทศไทย และต้องยอมรับว่า การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจในปี 2565 ซึ่ง กมธ. ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณด้วยความระมัดระวัง แต่งบประมาณด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่จำกัด ส่วนตัวก็ค่อนข้างเป็นห่วงกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน
ขณะที่นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แปรญัตติขอปรับลดงบประมาณกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาลง 5% เนื่องจากในการจัดทำงบประมาณได้พิจารณาในช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระลอกล่าสุด และคาดว่ากระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้กิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นไม่เต็มที่
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นสัดส่วนต่อจีดีพีถึง 10% และสูงกว่าภาคเกษตร แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่ผ่านมาไม่เห็นความช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการต่างๆ ในด้านการท่องเที่ยวจากรัฐบาล รวมถึงมัคคุเทศก์ต่างๆ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ควรเป็นเจ้าภาพในการขอให้รัฐบาลดูแลมัคคุเทศก์ให้มากขึ้น พร้อมเสนอให้รัฐบาลควรมีการจัดตั้งกรมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีการจ้างงานในภาคท่องเที่ยวมากถึง 2.4 ล้านคน