นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมในเดือนกรกฎาคม 2564 ปรับตัวลดลงทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรง มียอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประชาชนยังได้รับวัคซีนไม่ทั่วถึง ในขณะการแพร่ระบาดมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ประกอบกับธุรกิจหลายประเภทไม่สามารถดำเนินการได้ จากการที่ภาครัฐประกาศยกระดับความเข้มข้นของมาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ใน 13 จังหวัด และได้ประกาศพื้นที่สีแดงเข้มเพิ่มอีก เป็น 29 จังหวัด ในเดือนสิงหาคม 2564 มีการจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ ระบบการขนส่งสินค้าไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ไม่สามารถกระจายสินค้าได้ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรลดลง เช่น ยางราคา ผลไม้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความไม่เชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนกรกฎาคม 2564 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 36.7 เทียบกับระดับ 42.7 ในเดือนก่อนหน้า เป็นการปรับตัวลดลงทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวลดลงจากระดับ 34.4 มาอยู่ที่ระดับ 29.8 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต พบว่า ปรับลดลงจากระดับ 48.1 มาอยู่ที่ระดับ 41.3