พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธราภิรมย์ ผกก.1 บก.ปปป. พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ ผกก.2 บก.ปปป. พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปปป. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต นำกำลังกันจับกุมนายแพทย์วิชัย รัตนภัณฑ์พาณิชย์ อายุ 53 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางกรวย จ.นนทบุรี ขณะกำลังรับเงินสด 93,000 บาท จากผู้รับเหมาระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเงินที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำการล่อจับ โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องทำงานของผู้ต้องหา ในโรงพยาบาล พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารจำนวนหนึ่งกลับมาตรวจสอบ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กับทางสำนักงาน ป.ป.ท. ให้ช่วยตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้อำนวยการคนดังกล่าว หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าไปประมูลจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ภายในโรงพยาบาล มูลค่ากว่า 280,000 บาท แต่เจ้าตัวมีการเรียกรับเงินส่วนต่าง 15% ก่อนที่จะขอขยับเพิ่มเป็น 35% หรือประมาณ 93,000 บาท ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะจะทำให้ทางผู้รับเหมาขาดทุนเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ บก.ปปป. จากนั้นได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าจะมีการนัดมอบส่งเงินกันในวันนี้ จึงนำเงินของกลางที่ทำสัญลักษณ์ไว้ไปมอบให้ที่โรงพยาบาล เมื่อผู้อำนวยการรับเงินของกลางแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
ขณะที่นายภูมิวิศาล กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับการร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1206 จากผู้เสียหาย จึงทำการตรวจสอบเบื้องต้นและประสานให้ทางตำรวจรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดี ซึ่งผู้เสียหายก็พร้อมเข้าแจ้งความ ก่อนที่จะร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูลขยายผลตามเรื่องเส้นทางการเงิน และข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตต่างๆ ให้กับทางตำรวจ ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงผู้ประกอบการที่อาจถูกข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในระดับใดก็ตาม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนทางสายด่วน 1206 ได้ จากคดีนี้เป็นตัวอย่างว่า เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะประสานให้ตำรวจเข้าจับกุมต่อไป
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่า เรียกรับเงินจำนวนดังกล่าวจริง แต่นำไปเพื่อใช้ภายในโรงพยาบาลและสาธารณประโยชน์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปปป.
จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ผู้ต้องหามีประวัติถูกร้องเรียนในลักษณะใกล้เคียงกันนี้อีกหลายครั้ง ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนต่างๆ ว่า มีมูลความผิดหรือไม่ หากพบว่ามีมูลพอที่จะดำเนินคดีหรือสืบสวนสอบสวนต่อได้ก็จะดำเนินการทันที และหลังจากนี้จะให้ทางสำนักงาน ป.ป.ท.ตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงลักษณะการฟอกเงินต่างๆ ด้วย
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเป็นสำนวนคดีส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิด ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลพิจารณามูลความผิดต่อไป