นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ว่า แนวโน้มในภาพรวมของประเทศ ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม ถึง 23 กรกฎาคม 2564 จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 3,206 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 2,215 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.1 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) พบจำนวน 905 ราย หรือร้อยละ 28.2 และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 86 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.7
โดยพบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากทั้งหมดจำนวน 1,273 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา จำนวน 1,053 ราย หรือร้อยละ 82.7 สายพันธุ์อัลฟาจำนวน 220 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.3 ส่วนสายพันธุ์เบตาไม่พบผู้ติดเชื้อ
ส่วนภูมิภาคพบผู้ติดเชื้อจากทั้งหมดจำนวน 1,933 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา 1,162 ราย หรือร้อยละ 60.2 สายพันธุ์อัลฟา 685 ราย คิดเป็นร้อยละ 35.4 และสายพันธุ์เบตา 86 ราย หรือร้อยละ 4.4
โดยสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และขณะนี้พบแล้ว 72 จังหวัด ส่วนสายพันธุ์อัลฟา และสายพันธุ์เบตา มีแนวโน้มสัดส่วนลดลง โดยสายพันธุ์เบตาส่วนใหญ่ยังพบในพื้นที่ภาคใต้ มากที่สุดที่จังหวัดนราธิวาส และมีจำนวนประปรายในจังหวัดปัตตานี สตูล ตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ พบที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดบึงกาฬ
สำหรับสายพันธุ์เบตาที่พบที่จังหวัดบึงกาฬ ที่ผ่านมาพบ 4 ราย สัปดาห์นี้พบ 1 ราย เป็นญาติกับผู้ป่วยที่ยืนยันก่อนหน้า ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ได้ดำเนินการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องแล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูลการเฝ้าระวังทั้งประเทศ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 ถึง 23 กรกฎาคม 2564 สายพันธุ์อัลฟา จำนวน 13,311 ราย คิดเป็นร้อยละ 61.18 สายพันธุ์เดลตา จำนวน 7,977 ราย คิดเป็นร้อยละ 36.67 และสายพันธุ์เบตา จำนวน 468 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.15 ส่วนการติดเชื้อร่วม 2 สายพันธุ์ (Mix infection) ขณะนี้ยังไม่พบรายใหม่เพิ่มแต่อย่างใด