วันนี้ (30 ก.ค.) สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะ ผู้อำนวยการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานมอบทุนสนับสนุนองค์กรที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้ 1.สภากาชาดไทย จำนวน 2 ล้านบาท 2. โรงพยาบาลศิริราช จำนวน 2 ล้านบาท 3.โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 2 ล้านบาท 4.โรงพยาบาลสงฆ์ จำนวน 2 ล้านบาท 5.โรงพยาบาลวชิรพยาบาล จำนวน 1 ล้านบาท และ 6.โรงพยาบาลกลาง เป็นจำนวน 1 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 10 ล้านบาท
สมเด็จพระวันรัต กล่าวว่า โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับไวรัสร้ายดังที่เราทั้งหลายทราบกันอยู่ เฉพาะประเทศไทย ก็ถือว่าได้ประสบปัญหาหนัก น่าจะจัดเป็นกองทัพ บุคลากรทางการแพทย์ มีนายแพทย์พยาบาลและบุคลากรต่างๆ ทางการแพทย์นั้น ก็มาพิจารณากันว่า ทุกแห่งปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ก็ถือว่าต่อสู้กับโรคไวรัส ซึ่งเป็นข้าศึกสำคัญ นับว่าเป็นทัพหน้า มีคณะรัฐบาลซึ่งคอยอุปถัมภ์ช่วยเหลือในวัสดุ และการแพทย์ต่างๆ ทั้งออกกฎระเบียบให้บุคคลในชาติได้ถือปฏิบัติ ทั้งหมดนั้น กระทำเพื่อประโยชน์แก่มหาชน เพื่อประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า กล่าวคือกองทัพหน้า ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ มีนายแพทย์พยาบาล ในส่วนของประชาชน ก็ควรจะเชื่อฟังในกฎระเบียบต่างๆ ที่ทางราชการได้ประกาศทั้งหมดนั้น แม้จะถือว่าเป็นข้อบังคับ แต่ทุกคนต้องนึกว่า ท่านทำประโยชน์แก่เราทั้งนั้น ถ้าทุกคนได้ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎกติกาซึ่งทางราชการได้ประกาศให้ปฏิบัติ ไม่โต้แย้งเป็นการส่วนตัว ก็จะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุด แต่ก็นั่นแหละจิตใจของคนไม่เหมือนกัน ก็มีการโต้แย้งกันบ้าง ถ้าทุกคนตั้งกองทัพหน้า ก็คือบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วยนายแพทย์พยาบาล และบุลากรต่างๆ ดังที่ได้กล่าวแล้ว มีทัพหลวง คือคณะรัฐบาลให้อุปถัมภ์ค้ำชู ส่วนทัพหลังก็คือประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมใจกันปฏิบัติหน้าที่ของตนให้อยู่ในกรอบที่สมควรที่จะเป็นไป ให้ถือว่าเป็นประโยชน์ของคนทุกคน ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ หวังว่าโรคภัยไข้เจ็บที่ชื่อว่าไวรัสโคโรนาหรือว่าโควิด-19 นี้ จะหายไปจากประเทศไทย หายไปจากโลกในเร็ววัน
สมเด็จพระวันรัต กล่าวว่า โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับไวรัสร้ายดังที่เราทั้งหลายทราบกันอยู่ เฉพาะประเทศไทย ก็ถือว่าได้ประสบปัญหาหนัก น่าจะจัดเป็นกองทัพ บุคลากรทางการแพทย์ มีนายแพทย์พยาบาลและบุคลากรต่างๆ ทางการแพทย์นั้น ก็มาพิจารณากันว่า ทุกแห่งปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ก็ถือว่าต่อสู้กับโรคไวรัส ซึ่งเป็นข้าศึกสำคัญ นับว่าเป็นทัพหน้า มีคณะรัฐบาลซึ่งคอยอุปถัมภ์ช่วยเหลือในวัสดุ และการแพทย์ต่างๆ ทั้งออกกฎระเบียบให้บุคคลในชาติได้ถือปฏิบัติ ทั้งหมดนั้น กระทำเพื่อประโยชน์แก่มหาชน เพื่อประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า กล่าวคือกองทัพหน้า ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ มีนายแพทย์พยาบาล ในส่วนของประชาชน ก็ควรจะเชื่อฟังในกฎระเบียบต่างๆ ที่ทางราชการได้ประกาศทั้งหมดนั้น แม้จะถือว่าเป็นข้อบังคับ แต่ทุกคนต้องนึกว่า ท่านทำประโยชน์แก่เราทั้งนั้น ถ้าทุกคนได้ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎกติกาซึ่งทางราชการได้ประกาศให้ปฏิบัติ ไม่โต้แย้งเป็นการส่วนตัว ก็จะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุด แต่ก็นั่นแหละจิตใจของคนไม่เหมือนกัน ก็มีการโต้แย้งกันบ้าง ถ้าทุกคนตั้งกองทัพหน้า ก็คือบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วยนายแพทย์พยาบาล และบุลากรต่างๆ ดังที่ได้กล่าวแล้ว มีทัพหลวง คือคณะรัฐบาลให้อุปถัมภ์ค้ำชู ส่วนทัพหลังก็คือประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมใจกันปฏิบัติหน้าที่ของตนให้อยู่ในกรอบที่สมควรที่จะเป็นไป ให้ถือว่าเป็นประโยชน์ของคนทุกคน ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ หวังว่าโรคภัยไข้เจ็บที่ชื่อว่าไวรัสโคโรนาหรือว่าโควิด-19 นี้ จะหายไปจากประเทศไทย หายไปจากโลกในเร็ววัน