xs
xsm
sm
md
lg

กลาโหมระดมกำลังพล-อุปกรณ์เสริมจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มในหน่วยทหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานภาพโรงพยาบาลสนามที่กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพสนับสนุนจัดตั้งขึ้นปัจจุบัน ได้ใช้อาคารสถานที่ในหน่วยทหารที่มีที่ตั้งกระจายอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งอีก 24 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 34 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 6,135 เตียง ซึ่งกองทัพได้จัดกำลังพล บุคลากรทางการแพทย์ทหาร ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร ดูแลประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาด เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างต่อเนื่องมา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563

นอกจากนั้น กองทัพยังได้จัดกำลังทหาร บุคลากรทางการแพทย์ทหาร รวมทั้งเตียง เครื่องนอนและสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปเสริมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาลสนามบุษราคัม โรงพยาบาลสนามบางขุนเทียน โรงพยาบาลสนามวัฒนาแฟคตอรี่ สมุทรสาคร และโรงพยาบาลสนามอื่นๆ อีก 5 แห่ง

อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรง พล.ฮ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ระดมทรัพยากรขยายขีดความสามารถโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่เดิม และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในหน่วยทหารเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยสีเขียวที่มีเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ปัจจุบันทุกเหล่าทัพอยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่และระดมบุคลากรทางการแพทย์แถว 2 และอาสาสมัครเข้ามาช่วย โดยประสานการทำงานร่วมกับสาธารณสุขในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ มีความจำเป็นต้องเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสม แยกจากทหารและชุมชนในหน่วย เพื่อให้การแยกผู้ป่วยควบคุมโรคออกจากชุมชนสามารถจำกัดได้ในโรงพยาบาลสนามของหน่วยทหาร พร้อมกันนี้ ได้เตรียมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำหน่วยทหาร เข้าสนับสนุนกรุงเทพมหานครและจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ดูแลสถานที่แยกรักษาตัวชุมชน (Home Isolation)

โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า การทำหน้าที่ของกำลังทหารทุกนายในกองทัพยังสนับสนุนและทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ ต่อสู้กับโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นมา โดยถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มีผลกระทบร้ายแรงกับประชาชนในทุกมิติเป็นวงกว้าง และเป็นเวลาที่เราทุกคนต้องการความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสูงสุดจากทุกฝ่าย ช่วยกันดูแลกันและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สถานการณ์เลวร้ายลง รวมทั้งต้องมีความรับผิดชอบตนเองและสังคมมากขึ้น เพื่อหยุดและควบคุมวิกฤตสถานการณ์ครั้งนี้ให้ผ่านไปด้วยกัน