นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า รัฐวิกตอเรียจะยังไม่ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงตรวจพบการติดเชื้อในชุมชนอยู่ อย่างไรก็ตาม จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในวันอังคารนี้ (20 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจากสายพันธุ์เดลตา ทำให้ชาวออสเตรเลียเกือบครึ่งหนึ่งจากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 25 ล้านคน ต้องกักตัวเองอยู่ในบ้านภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ โดยซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์มาแล้วเป็นเวลา 5 สัปดาห์ ซึ่งกำหนดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีซิดนีย์เป็นเมืองหลวง มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 98 ราย ในวันจันทร์ (19 ก.ค.) ลดลงจาก 105 ราย ในวันอาทิตย์ และมีอย่างน้อย 20 ราย ที่เป็นผู้ติดเชื้อในชุมชน ซึ่งใกล้เคียงกับหลายวันที่ผ่านมา สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์จะได้ขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์เมืองซิดนีย์มาแล้วถึง 2 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มประกาศใช้ครั้งแรกในวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ขณะที่ประชาชนในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีเมลเบิร์นเป็นเมืองหลวง ตลอดเวลา 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา (2563) ก็อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในออสเตรเลียรอบแรก