นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยปรับปรุงเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดขึ้นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จึงสั่งการไปยังหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กำหนด และประกาศในราชกิจจาฯ ฉบับที่ 28 ดังกล่าว โดยเฉพาะในเรื่องของการขนส่งสาธารณะ ที่กำหนดให้กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร จังหวัด หรือหน่วยงาน ที่รับผิดชอบกํากับดูแลการให้บริการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะทุกประเภท ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กําหนด
ทั้งนี้ จํากัดจํานวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 50% ของความจุผู้โดยสาร สําหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยพิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความจําเป็นและตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอํานวยความสะดวกการขนส่งประชาชนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีน และบริการทางการแพทย์ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จํากัดจํานวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 50% ของความจุผู้โดยสาร สําหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยพิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความจําเป็นและตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอํานวยความสะดวกการขนส่งประชาชนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีน และบริการทางการแพทย์ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม นี้ เป็นต้นไป