สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการเดินทางทางอากาศในภูมิภาคเอเชียอาจต้องใช้เวลาถึง 3 ปี จึงจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานของ IATA ระบุว่า อุตสาหกรรมการเดินทางทางอากาศของเอเชียซึ่งยังคงล้าหลังภูมิภาคอื่นๆ อาจต้องใช้เวลาจนถึงปี 2567 จึงจะกลับมาฟื้นตัวสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยรายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ภูมิภาคเอเชียยังคงเผชิญกับผลกระทบหลายด้าน ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน
รายงานยังระบุด้วยว่า การเดินทางทางอากาศในอเมริกาเหนือและยุโรปฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุด หลังจากหลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และข้อกำหนดการกักตัว ขณะที่การเดินทางทางอากาศในเอเชียยังคงฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอัตราการฉีดวัคซีนที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด
รายงานได้อ้างถึงยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในอินโดนีเซียที่พุ่งขึ้นแซงหน้ายอดติดเชื้อรายวันของอินเดีย เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้อินโดนีเซียกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ในเอเชีย ขณะที่มาเลเซียขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมซึ่งกำหนดสิ้นสุดลงในวันที่ 28 มิถุนายน และญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 4 ในกรุงโตเกียว โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 สิงหาคม