คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม 5 สาขาอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ เฉพาะในพื้นที่ 10 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสงขลา
สำหรับช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคมและนอกระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการและมาตรการควบคุมการระบาดเพิ่ม จากเดิม 4 สาขาอาชีพ เป็น 9 สาขาอาชีพ โดยสาขาที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 5 สาขา ได้แก่ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาการขายส่งและการขายปลีก สาขาการซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ และสาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา
ทั้งนี้ ระยะเวลาการช่วยเหลือ 1 เดือน โดยลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับการช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน และลูกจ้างที่ได้รับชดเชยจะได้รับเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 7,500 บาท รวมกับเงินช่วยเหลือไม่เกินคนละ 10,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการจะได้รับรายละ 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน จำกัดไม่เกิน 200 คน เหมือนกับการกรณีมาตรการล็อกแคมป์คนงานที่ผ่านมา ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท
นอกจากนี้ ลดค่า-น้ำค่าไฟ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
1. ลดค่าไฟ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.)
2. ลดค่าน้ำ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ระยะเวลา 2 เดือน (ส.ค.-ก.ย.)
สำหรับ 4 กิจการที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาที่อยู่ในระบบประกันสังคม ไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และกิจการบริการอื่น ๆ