สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย รายงานว่า สืบเนื่องจากคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เรื่อง มาตรการ 14 วัน ปรับเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อ ระบบขนส่งสาธารณะ สวนสาธารณะ และการกำหนดข้อกำหนดและข้อปฏิบัติ ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 โดยจะให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2564 ทั้ง 2 สมาคม พร้อมที่จะขานรับมาตรการของศบค. และปฎิบัติตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังต่อไปนี้
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดให้บริการเฉพาะไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายยาและ เวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ การก่อสร้าง ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์ และพัสดุภัณฑ์ ที่เปิดดำเนินการในศูนย์การค้าจะปิดให้บริการ 20.00 น. ธนาคาร สถาบันการเงินหรือธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีนหรือบริการทางการแพทย์ และการสาธารณสุขอื่น ๆ ที่ดำเนินการในศูนย์การค้า จะปิดให้บริการ 17.00 น. ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่จำหน่ายในศูนย์การค้า ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น ไฮเปอร์มาร์ท แคช แอนด์แครี ที่ตั้งนอกศูนย์การค้า เปิดตามปกติ และปิดให้บริการ 20.00 น.ร้านค้าสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตั้งอยู่นอกศูนย์การค้า เปิดให้บริการ 04.00-20.00 น.
ทั้งนี้ หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ ให้ปฏิบัติตามประกาศตามจังหวัดนั้น ๆ โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย ยืนยันว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกมีความพร้อมที่จะเสริมการบริการด้วยช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวได้อย่างสะดวก ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการ มีการบริหารการจัดการสต็อกสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อลดความกังวลเรื่องสินค้ามีไม่เพียงพอ