นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแก้วิกฤตการณ์ของรัฐบาลในสถานการณ์ปัจจุบัน ว่า สถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรัฐบาลโดยตรงทั้งสิ้น รัฐบาลไม่มีความพร้อมต่อการรับมือสิ่งต่างๆ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีมติจะดำเนินการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายมาชี้แจง ซึ่งสิ่งที่จะอภิปรายจะนำสิ่งที่รัฐบาลกระทำการละเลยต่อชีวิตและเศรษฐกิจประชาชนที่นับวันตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ พร้อมจะเปิดโปงความเสียหายความผิดพลาดและการทุจริตเอื้อประโยชน์ของรัฐบาลที่กระทำมาตลอด 2 ปี
นายสมพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือและขอมติกับ ส.ส. ในเรื่องนี้ พร้อมจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนจะยื่นญัตติฯ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงด้วยว่า จะสามารถรวมตัวเพื่อประชุมได้หรือไม่ แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะใช้ช่องทางรัฐสภาเป็นหลัก ส่วนช่องทางอื่นๆ นั้นต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ ยืนยันว่าไม่ร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย
ทางด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า การล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการบริหารผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และยังสร้างความสูญเสียให้ประชาชน ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องเยียวยาช่วยเหลือประชาชนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่รัฐบาลยังมีวงเงิน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะการล็อกดาวน์มีต้นทุนที่สูงมากต่อระบบเศรษฐกิจ โดยความเสียหายจะอยู่ที่ประมาณ 260,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือเกือบ 9,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นทุกวินาทีที่ล็อกดาวน์มีความหมายคือความทุกข์ร้อนของประชาชน ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะกำหนดท่าทีและบทบาทร่วมกันเกี่ยวญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ