นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อทวงถามผลการสืบสวนหรือไต่สวนและวินิจฉัย กรณีได้ร้องเรียนว่ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามตาม ม.50(8) แห่งพรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 และเหตุใดบุคคลดังกล่าวมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่กฎหมายต้องห้ามนั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากความปรากฏว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนองไผ่รายหนึ่งที่เป็นอดีตกำนัน และอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ได้กระทำความผิดวินัย และจังหวัดสุรินทร์ ได้มีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งมานานแล้ว อันเนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ในสมัยนั้น ได้พิจารณาและมีมติว่า บุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิดโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบกับกิจการขององค์การบริหารส่วนตำบลนาหนองไผ่ โดย ป.ป.ป. ได้ลงมติในเรื่องดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ในฐานะผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตาม ม.19 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ 2518 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2530 ในสมัยนั้น
ดังนั้นเมื่อบุคคลดังกล่าว เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือ ถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามตาม ม.50(8) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ที่บัญญัติไว้ความว่า “บุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือ เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือ ถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ”
บัดนี้ระยะเวลาล่วงผ่านจะครบ 2 เดือนแล้ว สมาคมฯ เดินทางมาติดตามทวงถามผลการสืบสวนหรือไต่สวนและวินิจฉัยในกรณีตามคำร้องดังกล่าวว่ามีผลเป็นเช่นใดหรืออย่างไร ทั้งนี้เนื่องจากผู้ที่สมควรที่จะผ่านการเข้ารับการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นนั้น จำเป็นที่จะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด และต้องไม่มีประวัติที่ด่างพร้อยจนถึงขั้นถูกให้พ้นจากตำแหน่ง คือ ทั้งกรรมการ อบต. ทั้งกำนัน และทั้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งปรากฎหลักฐานเป็นที่ประจักษ์แล้ว