วันนี้ (5 มิ.ย.) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า โลกใหม่จะเป็นด้วยความผิดพลาดในการตัดสินใจ วางแผนควบคุมและป้องกันของหลายประเทศหรือไม่ ในการปล่อยให้มีการติดเชื้อไปเรื่อย ๆ โดยหวังว่าจะทำให้เกิดมีภูมิคุ้มกันหมู่ และในที่สุดแทนที่จะสร้างแรงกดดันไวรัสไม่ให้มีการเพี้ยน กลับปล่อยไวรัสให้เป็นอิสระ และมีการปรับเปลี่ยนหน้าตา รวมกระทั่งถึงการที่ไม่ใส่ใจในการสร้างแรงกดดันภายนอก ซึ่งนั่นคือการทำความสะอาดพื้นผิวโดยทั่ว ทั้งในที่ทำงานและในที่สาธารณะ ซึ่งเท่ากับเปิดโอกาสให้ไวรัสสามารถติดต่อกับคนที่เอามือสัมผัสพื้นผิวที่เต็มไปด้วยไวรัสเหล่านั้น และมีการติดเชื้อแพร่ไปอีก
ประเทศที่ควรต้องดูตัวอย่างคือประเทศจีน ที่มีการคิดนอกกรอบตั้งแต่อาทิตย์ที่สองของการระบาด และปรับตัวใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทุกชนิดในการเข้าปะทะกับไวรัสและประเทศไทยควรจะภูมิใจที่สามารถควบคุมไวรัสและควบคุมโรคได้ในลักษณะเดียวกันกับประเทศจีน แต่การรักษาความดี ความเก่งกล้าอาจจะเป็นเรื่องยากกว่าการรบในช่วงแรก ทั้งนี้ เพราะสงครามระหว่างมนุษยชาติกับ โควิด-19 นั้น ยังไม่จบง่าย ๆอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อาจจะต้องเผื่อใจไว้สำหรับวัคซีนซึ่งต้องประสบพบปัญหากับความเพี้ยนของไวรัส และวัคซีนเอง จะเข้าพวกกับไวรัสด้วยหรือไม่ สงครามใหญ่ที่อาจจะหนักหนากว่านี้ และภาวนาไม่ให้เกิดขึ้นคือ การที่ไวรัส โควิด-19 ซึ่งมาจากสัตว์สู่คน และจากคนสู่สัตว์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ไปยังแมว เสือ หมา ตัว มิ้งค์ ซึ่งสัตว์เหล่านี้มีโคโรนาไวรัสประจำตัวอยู่แล้ว และจะสามารถควบรวมเข้ากับโควิด-19 เกิดกลายเป็นตัวใหม่และแพร่กลับเข้าคนหรือไม่ หรือแม้กระทั่ง โควิด-19 ในคนแพร่กลับเข้าไปสู่ค้างคาว บ้านของโคโรนาไวรัสชนิดต่าง ๆ และเกิดเป็นตัวใหม่อีก ซึ่งมาตรการป้องกันแบบ New Normal คงไม่ใช่คำพูดสละสลวย และใช้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่อาจเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติไปตลอด
ประเทศที่ควรต้องดูตัวอย่างคือประเทศจีน ที่มีการคิดนอกกรอบตั้งแต่อาทิตย์ที่สองของการระบาด และปรับตัวใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทุกชนิดในการเข้าปะทะกับไวรัสและประเทศไทยควรจะภูมิใจที่สามารถควบคุมไวรัสและควบคุมโรคได้ในลักษณะเดียวกันกับประเทศจีน แต่การรักษาความดี ความเก่งกล้าอาจจะเป็นเรื่องยากกว่าการรบในช่วงแรก ทั้งนี้ เพราะสงครามระหว่างมนุษยชาติกับ โควิด-19 นั้น ยังไม่จบง่าย ๆอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อาจจะต้องเผื่อใจไว้สำหรับวัคซีนซึ่งต้องประสบพบปัญหากับความเพี้ยนของไวรัส และวัคซีนเอง จะเข้าพวกกับไวรัสด้วยหรือไม่ สงครามใหญ่ที่อาจจะหนักหนากว่านี้ และภาวนาไม่ให้เกิดขึ้นคือ การที่ไวรัส โควิด-19 ซึ่งมาจากสัตว์สู่คน และจากคนสู่สัตว์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ไปยังแมว เสือ หมา ตัว มิ้งค์ ซึ่งสัตว์เหล่านี้มีโคโรนาไวรัสประจำตัวอยู่แล้ว และจะสามารถควบรวมเข้ากับโควิด-19 เกิดกลายเป็นตัวใหม่และแพร่กลับเข้าคนหรือไม่ หรือแม้กระทั่ง โควิด-19 ในคนแพร่กลับเข้าไปสู่ค้างคาว บ้านของโคโรนาไวรัสชนิดต่าง ๆ และเกิดเป็นตัวใหม่อีก ซึ่งมาตรการป้องกันแบบ New Normal คงไม่ใช่คำพูดสละสลวย และใช้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่อาจเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติไปตลอด