นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 1,230 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย
โดยภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ปัจจุบันมีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นเป็น 123 แห่ง และยังสามารถควบคุมจำนวนของเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อให้คงที่อยู่ที่ 13 แห่ง ซึ่งมีผู้ต้องขังที่ติดเชื้อเริ่มได้รับการรักษาจนหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในส่วนของผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการ SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำในกลุ่มผู้ต้องขังจากสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดเดิม เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว อันจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยหนักให้น้อยลง รวมถึงการตรวจพบเชื้อในกลุ่มผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่มาจากภายนอก ซึ่งได้ดำเนินการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น และแยกผู้ติดเชื้อให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำ ภายใต้การดำเนินการตามกรอบนโยบายหลักในการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด คือ การระวังอย่าให้เชื้อเข้าสู่เรือนจำ การรักษาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็วและทั่วถึง เพื่อไม่ให้มีการเสียชีวิต และการตรวจเชื้อและปฏิบัติตามมาตรการเข้มงวด อย่าให้มีการนำเชื้อออกสู่ภายนอก
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการดำเนินการฉีดวัคซีนในผู้ต้องขัง ว่า ในวันนี้ได้เริ่มฉีดที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ภายหลังจากที่ได้รับวัคซีนจากกรมควบคุมโรค รวมถึงการสนับสนุนบุคลากรจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และโรงพยาบาลบางบ่อ ในฐานะโรงพยาบาลแม่ข่าย และอาสาสมัครพยาบาล รวม 40 คน ในการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังทั้งหมด 6,515 คน ซึ่งจะดำเนินการฉีดระหว่างวันที่ 3-6 มิถุนายน 2564 รวม 4 วัน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 1,800 คน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ และลดการเจ็บป่วยรุนแรง หรือการเสียชีวิตของผู้ต้องขังลง ก่อนจะเริ่มกระจายการฉีดวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวที่เป็นเรือนจำปลอดเชื้อ จนกระทั่งครอบคลุมในทุกเรือนจำ/ทัณฑสถาน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับกรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 1 ราย ในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 84 ปี จากเรือนจำกลางคลองเปรม ได้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยเป็นผู้ป่วยในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัวเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามอาการอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากเป็นผู้ป่วยสูงอายุและมีโรคประจำตัว อาการจึงทรุดลง และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564